สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 17 ต.ค. ว่า หนังสือพิมพ์เลอ ฟิกาโร ของฝรั่งเศส ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล มีเนื้อหาตอนหนึ่ง เป็นการที่ผู้นำอิสราเอลกล่าวถึงมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เมื่อปี 2549 ซึ่งยุติสงครามยาวนาน 33 วัน ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ว่า “ทหารเลบานอนเท่านั้น” สามารถพกอาวุธในเขตทางใต้ของแม่น้ำลิตานี ที่เป็นแม่น้ำสายหลักทางตอนใต้ของเลบานอน
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่บริเวณนั้นกลับเต็มไปด้วยอุโมงค์ คลังแสง และสถานที่หลายแห่งซึ่งเป็นที่ซุกซ่อนอาวุธของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และ “อาวุธทันสมัยจำนวนหนึ่งของรัสเซีย”
ขณะที่เดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าว ว่าทหารของอิสราเอลตรวจพบจรวดต่อต้านอากาศยานที่ผลิตในรัสเซียและจีน ระหว่างตรวจค้นฐานที่มั่นแหงหนึ่งของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ในภาคใต้ของเลบานอน
อีกด้านหนึ่ง ทางการเมืองนาบาตีห์ ทางตอนใต้ของเลบานอน รายงานว่า กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ “ไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง” ในพื้นที่ และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 16 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 52 คน โดยอาคารที่ทำการเทศบาลเมืองนาบาตีห์ได้ความเสียหาย และมีผู้เสียชีวิตที่นี่อย่างน้อย 6 ราย รวมถึงนายซาเด็ก อีสซา นายกเทศมนตรีเมืองนาบาตีห์
ปฏิบัติการทางทหารดังกล่าวของกองทัพอิสราเอลเกิดขึ้น หลังนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ประกาศ “ไม่หยุดยิงฝ่ายเดียว” ในเลบานอน และยืนยันว่า “ต้องมีแนวกันชน” ระหว่างภาคเหนือของอิสราเอลกับภาคใต้ของเลบานอน เพื่อป้องกันการแทรกซึมของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์.
เครดิตภาพ : AFP