จากกรณี นายวินัย ละอองสุวรรณ อดีตพระยันตระ วัย 70 ปี เดินทางมาประเทศไทย ทำให้มีพระและประชาชนเข้าไปกราบไหว้เป็นจำนวนมาก ภายหลัง กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ระบุว่า พระสงฆ์ที่ไปกราบไหว้นั้น ถือเป็นความผิด อาบัติทุกกฎ ขณะสำนักพุทธฯ กำลังเร่งตรวจสอบเป็นพระสงฆ์จากที่ไหน ก่อนประสานเจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ พิจารณาลงโทษต่อไป ล่าสุดนายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ทำหนังสือด่วนร้องเรียนไปยัง มส.ให้ดำเนินการเอาผิดอดีตพระยันตระที่ยังอ้างตนยังเป็นสงฆ์ ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้วนั้น
‘พี่ศรี’ทนไม่ไหวจี้ ‘มหาเถรฯ-สำนักพุทธ’เอาผิด ‘ยันตระ’อ้างตนยังเป็นสงฆ์
ชี้พระสงฆ์กราบ “อดีตพระยันตระ” ผิด “อาบัติทุกกฎ”
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่อาศรม เกพลิตาโพธิวิหาร บ้านสวน ต.หนองบอน อ.เมือง จ.สระแก้ว หรือ วัดหลวงพ่อหยกขาว มีอดีตยันตระ อมโร หรือ นายวินัย ละอองสุวรรณ ซึ่งตกเป็นข่าวโด่งดังเมื่อหลายสิบปีก่อน เดินทางมาที่สำนักสงฆ์ด้วยรถตู้สีขาว ห่มผ้าจีวรสีเขียวคล้ายพระภิกษุและมีพุทธศาสนิกชนนุ่งขาวห่มขาวและพระภิกษุ 2 รูป มาต้อนรับ โดยลูกศิษย์หลายคนคุกเข่าคลานเข้าไปหายกมือไหว้และก้มกราบ ท่ามกลางผู้สื่อข่าวหลายแขนงที่ติดตามมารอทำข่าวการแถลงข่าวเปิดใจวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อพระยันตระ เดินทางมาถึงบริเวณศาลาพุทธศรีอริยะเมตไตรยที่จะใช้ในการแถลงข่าว ได้มีพระภิกษุรวม 5 รูป และบรรดาลูกศิษย์ประมาณ 50 คน ซึ่งนุ่งห่มผ้าสีขาวมารอรับและก้มกราบ 3 ครั้งด้วยความศรัทธา ซึ่งหลังประกอบพิธีกรรม ที่บริเวณด้านหน้าหลวงพ่อหยกขาว อดีตพระยันตระไปนั่งที่เก้าอี้หลุยส์ ด้านหัวพิธี พร้อมกล่าวทักทายกับบรรดาศิษยานุศิษย์และพระภิกษุ
อดีตพระอาจารย์ยันตระ เปิดเผยว่า หลังเกิดกรณีที่มีการวิพากษ์กรณีที่พระภิกษุก้มกราบนั้น ขณะนี้ตนเองยังไม่ได้สละสมณเพศ ก็คงเห็นว่า อาตมาปฏิบัติอยู่เหมือนเดิม เลยให้ความเคารพศรัทธา ทั้งพระ ทั้งญาติโยม ทั้งคนไทยและคนต่างประเทศ ก็ได้สอนธรรมให้ตั้งอยู่ในศีล สำหรับฆาราวาสก็มีศีล 5 ดีแล้ว ก็พอแล้ว รักษาให้มั่น และจะบอกว่าในส่วนของการที่ยังครองเป็นพระสงฆ์อยู่นั้น ไม่ได้ยึดถือหลักเกณฑ์ของสำนักพุทธฯ แต่ถือในหลักเกณฑ์ของการปฏิบัติอยู่ที่ใจหรือการปฎิบัติสำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการนุ่งห่ม การไว้ผม ไว้หนวด และที่ผ่านมาอาตมายังไม่เคยกล่าวลาสมณเพศ หรือได้กล่าวคำลาสิกขา ก็ขอไม่แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ อยู่ที่สังคมจะพิจารณาเอาเอง
อดีตพระยันตระ กล่าวต่อว่า การเป็นครูบาอาจารย์ มีพระอยู่ในใจและการปฏิบัติของอาตมาก็ยังปฏิบัติตลอดมา เพียงแต่ไม่ได้ยุ่งยาก และไม่มีอะไรอยากจะชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทุกคนมีอิสรภาพและขอให้ลงแต่ความเป็นจริง ซึ่งในการกราบไหว้ของพระสงฆ์นั้น ตนก็ไม่ได้แนะนำอะไร เพราะเมื่อเราตั้งใจประพฤติปฏิบัติความจริง ก็สามารถเข้าถึงความเจริญยิ่งในพรหมจรรย์ เป็นที่พึ่งของมหาชนทั้งหลาย
อดีตพระยันตระ กล่าวอีกว่า คำสอนของพระพุทธเจ้าสอนไว้ว่า เธอทั้งหลายที่จาริกไป เที่ยวไป เพื่อประโยชน์และความสุข เมื่อสุขใจตัวเองดีแล้ว อาตมาเข้าถึงความเป็นกลางแล้ว ปล่อยวางแล้ว จึงไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว ขอให้ทุกคนตั้งอยู่ในศีล เข้าวัดปฏิบัติธรรม ซึ่งยอมรับว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ เพราะในโลกนี้จะให้ใครเข้าใจเราทั้งหมดก็ไม่ได้ ให้เราดีขนาดไหน คนที่ไม่เข้าใจ จะมองว่าเราไม่ดีอยู่นั่นเอง ก็เลยไม่ทุกข์กับเรื่องนี้ อยู่แบบสบาย ๆ ไปดีกว่า ส่วนเหตุที่ไม่ปลงผม หรือหนวด ไม่ได้ไว้ แต่มันขึ้นเอง และอีกอย่างขณะอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้ชีวิตปฏิบัติธรรมอยู่ในป่าเพียงลำพัง
อดีตพระยันตระ กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่เดินทางมากลับประเทศไทย เพราะต้องการกลับมาแผ่นดินเกิด และเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องและพระสงฆ์ที่มีความสนิทสนมกัน หลังจากนี้จะเดินทางกลับไปที่ จ.ปทุมธานี และจะเดินทางกลับประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 27 ต.ค.ช่วงเวลา 07.00 น.
ด้านนายพรชัย ซื่อวาจา อายุ 68 ปี และนางสุนี ศรีสุรา อายุ 73 ปี สามีภรรยา กล่าวว่า เป็นลูกศิษย์มาแล้วกว่า 30 ปี จะพักอาศัยอยู่ที่ จ.นครปฐม แล้วทุกๆ วันที่ 14 ต.ค.ของทุกปี ก็จะไปที่สำนักเกริงกะเวีย อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เพื่อทำบุญฉลองวันเกิด และในทุกๆ โอกาสก็จะไปทำบุญพร้อมฟังเทศน์จากอดีตพระยันตระ เมื่อก่อนมีญาติโยมเยอะมากๆ ล้นวัดที่มาร่วมฟังเทศน์ ก็หลังจากที่มีกระแสข่าวตอนนั้นก็ไม่ได้เจอกกับอดีตพระยันตระอีกเลย กระทั่งเมื่อคืนทราบข่าวว่า มาที่ จ.สระแก้ว วันนี้จึงไปค้นรูปถ่ายครั้งที่ได้รับจากเมื่อ 30 กว่าปีที่ผ่านมา มาให้ทำการเสกให้ตามความเชื่อ และสำหรับเรื่องที่ผ่านมา ก็ไม่เชื่อว่าจะทำจริง ส่วนตัวยังรักและศรัทธาเหมือนเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่กรรมการมหาเถรสมาคม ระบุว่า พระสงฆ์ที่กราบอดีตพระยันตระนั้นผิดอาบัติทุกกฎนั้น ทางผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อสำนักงานพระพุทธพุทธศาสนา จ.สระแก้ว เพื่อให้ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ไม่สามารถติดต่อได้.
