กรณี พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.(สส.) และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.ต.ไพโรจน์ กุจิรพันธ์ ผู้บังคับการกองอุทธรณ์ (อธ.) เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนในคดีรังนก ร่วมกับชุดสอบสวน ภ.จว.พัทลุง โดย พล.ต.อ.สุชาติ ยืนยันว่าผู้บงการการขโมยรังนก มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ และพลเรือน ซึ่งจะทยอยออกหมายจับผู้ต้องหาเป็นชุดๆ อย่างต่อเนื่อง ตามที่ได้เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องแล้วนั้น

“บิ๊กใหม่” บินด่วนลงพัทลุง จ่อ 10 หมายจับ เชือด จนท.รัฐ-ชาวบ้าน เอี่ยวขโมยรังนก

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 22 ต.ค. พล.ต.ต.มานิตย์ รามดิษฐ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง สนธิกำลังตำรวจชุด กก.ภ.จว.พัทลุง ชุด กก.6 บก.ป. ตำรวจชุด กก.6 บก.ปชส. ตำรวจชุด กก.7 บก.รน. ตำรวจชุด กก.2 บก.สส.ภ.9 ตำรวจชุด กก.3 บก.ทท.3 ตำรวจภูธร กก.4 สนท.5 ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน สภ.ปากพะยูน และ สภ.เกาะนางคำ กว่า 100 นาย นำหมายศาลจังหวัดพัทลุง ลงพื้นตรวจค้น 9 จุด เป็นพื้นที่ บ้านช่องฟืน 8 จุด และบ้านแหลมกรวด ต.เกาะหมาก อีก 1 จุด ซึ่งเป็นบ้านของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ จัดเก็บอากรภาษีรังนกอีแอ่น แต่ไม่พบหลักฐานใดๆ ส่วนจุดอื่นๆ เจ้าหน้าที่ได้ยึดกระสอบปุ๋ย กะละมัง ต้องสงสัยว่าใช้บรรจุรังนกขนกลับมาจากเกาะหลังขโมยออกจากถ้ำ

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ต.ค. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้บินด่วนมาสอบปากคำผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวคดีดังกล่าว 11 ราย โดยมีการสอบปากคำผู้ต้องหา 4 ราย ที่เป็นชาว จ.ชุมพร เนื่องจากแนวทางการสอบสวนสืบสวนพบว่าเป็นกุญแจสำคัญในกระบวนการขโมยรังนกครั้งนี้ เกี่ยวข้องตั้งแต่เป็นผู้ติดต่อให้มาขโมย หลังได้รังนกแล้วนำไปส่งให้ใคร ที่ไหนอย่างไร ซึ่งคำให้การจากการสอบปากคำมีประโยชน์ต่อรูปคดีมาก เชื่อมโยงไปสู่ผู้ร่วมกระบวนการหลายกลุ่มใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง

ภายหลังประชุมเสร็จ พล.ต.อ.สุชาติ ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาทั้ง 4 เดินทางมาจาก จ.ชุมพร โดยการประสานจากเพื่อนใน อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง เพื่อเข้าไปขโมยรังนก โดยมีการเคลียร์ให้เข้าเกาะกับชุดเฝ้า และทั้ง 4 คน ยอมรับว่าได้ก่อไฟในถ้ำเพื่อหุงอาหารเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาเผาไล่นกหรือทำลายหลักฐานแต่อย่างใด ส่วนการเข้าไปขโมยรังนกนั้น มีการเข้าไปก่อเหตุกันหลายกลุ่ม แต่ช่วงที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเฝ้าก็จะเปิดทางให้กลุ่มตนเข้าไปขโมย เมื่อได้รังนกก็จะขนมาขึ้นฝั่งไปส่งต่ออีกทอดหนึ่ง ทั้งนี้การดำเนินการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ใกล้ถึงตัวระดับสั่งการ ซึ่งก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน สาวถึงใครก็ไม่มีข้อยกเว้น แม้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ปกครองหรือเจ้าหน้าที่ป่าไม้ รวมถึงนักการเมืองท้องถิ่นที่อยู่เบื้องหลัง

ตำรวจชุดควบคุมการสอบสวนนายหนึ่งเปิดเผยว่า แนวทางการสอบสวน พบว่ามีสมาชิกสภาจังหวัดบางคน และข้าราชการระดับสูงของจังหวัด อยู่ในข่ายของผู้มีส่วนพัวพันกับคดีครั้งนี้ด้วย ส่วนจะสาวถึงหรือไม่ อยู่ที่การสืบสวน พยานหลักฐาน เชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะสาวถึงทั้งหมด เพราะผู้ที่ถูกจับกุมได้ให้การซัดทอดกันเป็นทอดๆ อย่างไรก็ตาม คดีลักรังนกครั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า รังนกจำนวนมากที่ถูกขโมยไป ถูกส่งไปจำหน่ายที่ไหน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้ติดตามสืบสวนสอบสวนไปถึง ทั้งที่แหล่งรับซื้อรังนกขนาดใหญ่ รวมทั้งโรงงานที่ส่งออก และทำการฟอกรังนก ซึ่งทั้ง 2 โรงก็อยู่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เหมือนกัน