‘เดลินิวส์’ ยังคงเกาะติด คดีขโมยรังนก สร้างความเสียหาย กว่า 5 พันล้านบาท ใน จ.พัทลุง ซึ่ง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. นำกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ติดตามจับกุมคนร้ายทั้งขบวนการ กดดันจนผู้ต้องหาชิงเข้ามอบตัวแล้ว 1 ราย อีกทั้งมีคำสั่งโยกย้ายตำรวจในพื้นที่ 4 ราย เพื่อเปิดทางการสอบสวน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ด่วน!สั่งเด้ง4ตร.เข้ากรุศปก.ภ.จว.พัทลุง เซ่น ‘ขโมยรังนก’ เปิดทางเชือดขบวนการโฉด

ล่าสุด เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่กองบินตำรวจ ดอนเมือง พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ขึ้นเครื่องบินลงพื้นที่ จ.พัทลุง ตรวจสอบความคืบหน้าคดี โดยกล่าวกับสื่อมวลชนว่า คดีนี้มีทั้งเจ้าหน้าที่รัฐรวมถึงบุคคลภายนอกและภายในเกาะลิบง จ.ตรัง เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดโดยหวังผลประโยชน์ชัดเจน ซึ่งเป็นการกระทำความผิดที่มีความสลับซับซ้อนและเกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน โดยยืนยันได้ว่า การก่อเหตุมีลักษณะของการไปลักลอบแทงรังนกไม่ใช่ลักษณะการเผา แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีการนำเสนอข่าวไปว่าผู้ก่อเหตุลักลอบเผา แต่หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าเป็นการเผาฟืน เพื่อทำอาหารไม่ใช่การเผาเพื่อขโมยแทงรังนก โดยในส่วนนี้ตำรวจ มีพยานหลักฐานและเตรียมออกหมายจับผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ รวมถึงบุคคลภายนอกและภายในเกาะลิบงประมาณ 10 คน ในความผิดที่เกี่ยวกับกฎหมายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง 

ทั้งนี้พบพฤติการณ์เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุแทงรังนกเป็นชาวบ้านนอกเกาะลิบง มีเจ้าหน้าที่รัฐอยู่เบื้องหลังในการบงการ และสนับสนุนให้มีการกระทำความผิดที่ชัดเจน ส่วนความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะมีความเสียหายมากกว่าหลักหลายล้านบาท ส่วนกรณีที่มีผู้ต้องสงสัยเข้ามอบตัวกับตำรวจไปก่อนหน้านี้ 1 รายนั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดี หากไม่พบหลักฐานอาจจะกันไว้เป็นพยาน สำหรับบริษัทสัมปทานรังนก ทั้งบริษัทเก่าและบริษัทใหม่ ขณะนี้ยังไม่พบความผิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องในคดีนี้ แต่อย่างใด