ยังจำกันได้ไหมสำหรับเธอคนนี้ “ปิ่น” หฤทัย ณ เชียงใหม่ หรือที่คนในวงการจะเรียกเธอว่า “หมอปิ่น” ลูกสาวคนเดียวที่เกิดมาท่ามกลางลูกพี่ลูกน้องที่เป็นผู้ชาย เรียกได้ว่าเกิด และโตที่สนามมวย เพราะว่าคุณพ่อ–พรมมินทร์ จุมปาจม มีอาชีพเปิดร้านตัดผมควบคู่กับการทำค่ายมวยชื่อ “เอกบาร์เบอร์” จึงทำให้เธอเองก็อยากเป็นนักมวยคนหนึ่งในสังกัดของคุณพ่อด้วย

คุณหมอเริ่มซ้อมมวยตอน ม.1 แต่ยังไม่ค่อยจริงจัง จนต่อมาพอได้ติดตามไปช่วยคุณพ่อที่พานักมวยของค่ายไปขึ้นชกตามเวทีงานวัดบ่อย ๆ ก็ทำให้เธออยากขึ้นชกบ้าง และเวทีมวยครั้งแรกที่ได้ขึ้นชก ก็เป็นเวทีมวยงานวัด ได้ค่าตัวประมาณ 300-400 บาท โดยครั้งแรกเธอแพ้คะแนนให้กับคู่แข่ง แต่ทั้งหมดของการชกมวย เธอได้ขึ้นชกไปประมาณ 38 ไฟต์ ส่วนผลการแข่งก็คือ ชนะ 30 ไฟต์ ที่เป็นการชนะน็อกถึง 10 กว่าไฟต์ และแพ้เพียง 8 ไฟต์เท่านั้น

หลังจากตัดสินใจหยุดเส้นทางนักมวย เพื่อไปเรียนต่อปริญญาตรี สาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์ มหาวิทยาลัยนเรศวร ภายหลังจากทำงานเป็นหมออยู่พักหนึ่ง มีโปรโมเตอร์มวยท่านหนึ่งที่รู้จักกันรู้ว่าเธอเรียนจบแล้วจึงติดต่อมา แต่ไม่ได้ติดต่อให้ไปขึ้นชก ติดต่อให้ไปเป็นแพทย์ประจำสนามมวย เพราะเห็นว่าเธอเป็นนักมวยเก่า และกลายเป็นคนดังในโซเชียลให้แฟนๆ มวยได้รู้จักเธอตั้งแต่นั้นเป็นมา

ล่าสุด “หมอปิ่น” ยังไม่หยุดเพียงเท่านั้น จนโดนแฟนคลับแซวว่า “หมอจะเป็นทุกอย่างไม่ได้นะ” เนื่องจาก คุณหมอคนสวยได้เข้าร่วมการออดิชั่น เพื่อผ่านเข้าไปเป็นผู้ประกวดมิสแกรนด์แพร่ 2025 และแน่นอนว่าเธอนั้นผ่านการออดิชั่นตั้งแต่รอบแรก แฟนๆ สามารถร่วมเป็นกำลังใจให้หมอปิ่นในรอบตัดสิน วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 ณ สถานีกลางบางซื่อ

เครดิตเพจ มิสแกรนด์แพร่ – Miss Grand Phrae