วันนี้ (23 ต.ค.) สถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา ยังคงทวีความรุนแรงและขยายพื้นที่ออกไปมากขึ้น โดยเฉพาะปริมาณน้ำจากลำเชียงไกร ใน อ.โนนไทย ได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนและพื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายจำนวนมาก ถนนเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อระหว่าง อ.โนนสูง และ อ.โนนไทย บริเวณบ้านหนองอ้อ หมู่ที่ 3 ต.เมืองปราสาท ถูกปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมพื้นผิวถนนระยะทางยาว 3 กม. ระดับน้ำท่วมสูง 20-30 ซม. รถขนาดเล็กสัญจรผ่านไปมาลำบาก บ้านเรือนประชาชนกว่า 70 หลังคาเรือน ในชุมชนสวนผัก เขตเทศบาลโนนสูง ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร ต้องใช้ชีวิตด้วยความลำบาก

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฮุก 31 จ.นครราชสีมา เข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ชุมชนหลังวัดบ้านหนองอ้อ หมู่ 3 ต.เมืองปราสาท อ.โนนสูง หลังจากมวลน้ำจากลำเชียงไกร ได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเคยประสบอุทกภัยไปเมื่อวันที่ 29 ก.ย.ที่ผ่านมา และนำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์เข้าช่วยในการอพยพผู้ป่วยติดเตียงรายหนึ่งออกมายังที่ปลอดภัย นำส่งไปยังศูนย์พักพิงผู้ประสบอุทกภัยเทศบาลตำบลโนนสูงเป็นที่เรียบร้อย

ด้านโครงการชลประทาน จ.นครราชสีมา รายงานสถานการณ์ภาพรวมปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง และขนาดกลางอีก 23 แห่ง รวม 27 แห่ง พบว่าส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดมีปริมาณน้ำมากจนเกินความจุ โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ หรือ 4 เขื่อนใหญ่ ประกอบด้วย ลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีน้ำ 103% ลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย มีน้ำ 101% ลำมูลบน อ.ครบุรี มีน้ำ 103% และลำแชะ อ.ครบุรี มีน้ำ 98% โดยทั้ง 4 เขื่อนใหญ่มีปริมาณน้ำรวมกัน 900 ล้านลูกบาศก์เมตร ค่าเฉลี่ยคิดเป็น 101% ของความจุรวม 885 ล้านลูกบาศก์เมตร

ขณะที่อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 23 แห่ง ตอนนี้มี 20 แห่ง ที่ปริมาณน้ำเกินความจุ 100% เหลืออีก 3 แห่งที่น้ำยังไม่เต็มคือ อ่างห้วยตะคร้อ 22% อ่างลำเชียงไกรตอนล่าง 79% และอ่างห้วยทับครัว 90% ส่วนปริมาณน้ำภาพรวมทั้ง 23 แห่ง มีน้ำรวมกัน 329 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 99% ของความจุทั้งหมด 331 ล้านลูกบาศก์เมตร

ภาพรวมถือว่าปริมาณน้ำท่าของโคราชปีนี้มากที่สุดในรอบ 50 ปี จนทำให้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่.