จากกรณีเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มก่อความไม่สงบพร้อมอาวุธปืนสงครามหลบหนีการจับกุมจากเหตุปะทะในพื้นที่ ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งครั้งนั้นมีคนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 2 ราย ขณะที่คนร้ายที่เหลือหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวในป่าสาคูร่วมกับเพื่อนที่สร้างเป็นฐานพักพิงในพื้นที่หมู่ 5 ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ไล่ล่าปิดล้อมจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นอย่างดุเดือด จนร่วงเลยมาถึง 6 วันนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่หลายหน่วยได้เข้าปิดล้อมพื้นที่ป่าดังกล่าวอย่างประชิดและยังใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในการตรวจค้นทั้งภาคพื้นที่ดินและอากาศแต่ก็ยังถูกคนร้ายที่คาดว่าน่าจะมีอยู่ประมาณ 3-4 คน ใช้อาวุธปืนยิงใส่เป็นระยะ แม้ว่าจะเชิญผู้นำศาสนามาร่วมเจรจาแต่ก็ไร้ผล

ความคืบหน้าเรื่องนี้วันที่ 10 ก.ค. พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เดินทางไปยังกองปฏิบัติการที่หมายพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งตั้งเป็นสถานที่วางแผนการปฏิบัติในการติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่ยังหลบซ่อนตัวภายในป่าดังกล่าว พร้อมรับฟังการรายงานสถานการณ์ล่าสุดในการปิดล้อมตรวจค้น ซึ่งการปฏิบัติหลังจากหน่วยปฏิบัติการร่วมได้เข้าโอบล้อมป่าแบบประชิดตัวในพื้นที่ระยะ 100-200 เมตร เจ้าหน้าที่จึงได้นำโดรนบินตรวจทางอากาศเพื่อทำการตรวจจับความร้อนก็พบว่าคนร้ายยังคงซ่อนตัว แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่สามารถเข้าไปได้เนื่องจากอันตรายเพราะจุดที่ซ่อนตัวของคนร้ายนั้นเป็นป่ารกทึก เจ้าหน้าที่จึงได้ทำรถแบ๊กโฮกันกระสุนเข้าไปไถป่ารอบๆ เพื่อเปิดทางให้สามารถเข้าถึงเป้าหมายใกล้ที่สุด แต่ปรากฏว่าขณะที่รถกำลังไถเข้าใกล้ก็ถูกคนร้ายยิงใส่ก่อนที่จะถอยออก อีกทั้งก่อนที่เจ้าหน้าที่พยายามเกลี้ยกล่อมเจรจาให้มอบตัวก็ไม่เป็นผล และยังคงมีการปะทะกันอีกระลอก

ล่าสุดมีรายงานว่า จากการนำโดรนบินตรวจสอบทางอากาศมีการยืนยันแล้วว่า พบศพคนร้าย 2 ราย เสียชีวิตในร่องน้ำจากการปะทะแล้ว และพบอาวุธปืนตกอยู่บริเวณศพ แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าตรวจสอบได้เนื่องจากการตรวจสอบความร้อนยังพบความเคลื่อนไหวของคนร้ายอีก 1-2 คน

แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า ตลอด 6 วัน มีการนำเอาผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่มาช่วยพูดคุยเพื่อที่จะให้ยอมมอบตัว ซึ่งก็ยังมีการต่อสู้เรื่อยมา และค่อนข้างที่จะลำบากในการปฏิบัติในการใช้มาตรการต่างๆ ซึ่งตอนนี้กำลังเครื่องมือที่จะกระชับวงล้อมเพื่อที่ให้ทางนั้นเห็นโอกาสว่าหากต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จะเป็นไปได้ยากมาก ซึ่งมีทางเดียวคือมอบตัว เราพบฐานปฏิบัติการคนร้ายจากการใช้เครื่องมือเข้าตรวจสอบพบว่าสามารถเห็นคนร้ายอาศัยอยู่ได้หลายคน และได้ฝากไปยังคนในพื้นที่ด้วยว่าหากใครให้การสนับสนุนคนร้ายเราจะดำเนินตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด

ส่วนกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ที่คาดว่าจะเป็นกลุ่มที่เคลื่อนไหวและก่อเหตุใน อ.สายบุรี อ.กะพ้อ และอ.ทุ่งยางแดง เป็นกลุ่มเดิมที่ทางเราได้ติดตามมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ทำร้ายผู้บริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นบนเส้นทางถนนสายบุรีก่อนหน้านี้ ซึ่งวันนี้ก็คาดว่าน่ายุติการปิดล้อมปะทะได้