โธมัส เคราต์ วัย 59 ปี โดนเข้าใจผิดว่าป่วยเป็นโรคอ้วนมาตลอดเวลากว่า 10 ปี ก่อนที่จะมีการตรวจพบว่าเขามีเนื้องอกก้อนมหึมาอยู่ในช่องท้อง ซึ่งต้องใช้เวลาผ่าตัดอย่างยาวนานถึง 10 ชั่วโมง

เคราต์รับการผ่าตัดรักษาเนื้องอกที่กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์ หลังจากที่ท้องของเขาขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งในตอนแรกทีมแพทย์คิดว่า เขาก็แค่ “มีพุง” เนื่องจากน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานไปมาก

ก่อนหน้านี้ เคราต์ได้รับการรักษาโดยการส่งตัวไปเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักและปรับโภชนาการ ขณะที่เจ้าเนื้อร้ายค่อย ๆ เติบโตอยู่ในร่างกายของเขา

ในตอนแรก แพทย์คิดว่าเคราต์ป่วยเป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวาน

บ้านเกิดของเคราต์อยู่ที่เยอรมนี แต่เขาย้ายมาอยู่ที่นอร์เวย์เพื่อทำงานเป็นช่างตัดแว่นสายตาในปี 2551 ส่วนภรรยาของเขาที่ชื่อว่า อิเนส ทำงานอยู่ในหน่วยงานด้านสาธารณสุข

เคราต์เริ่มมีปัญหาสุขภาพในปี 2544 ท้องของเขาขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขาไปตรวจรักษา แพทย์ก็วินิจฉัยว่าเขาป่วยเป็นโรคอ้วนและโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ในปี 2545 

แต่อีก 12 ปีต่อมา เมื่อแพทย์พิจารณาอาการป่วยของเขาอย่างละเอียดระหว่างเตรียมการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะเพื่อแก้ปัญหาโรคอ้วน ทีมแพทย์จึงพบว่า น้ำหนักตัวที่เกินมาตรฐานของเคราต์นั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขามีเนื้องอกขนาดใหญ่อยู่ในร่างกาย และที่สำคัญคือมันเป็นเนื้องอกร้ายหรือมะเร็งนั่นเอง

เคราต์เล่าว่า ท้องของเขาขยายขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างที่เขาเปลี่ยนแพทย์ที่รักษาไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งได้รับอนุมัติให้ผ่าตัดลดขนาดกระเพาะเมื่อปี 2562 บรรดาแพทย์ที่เคยรักษาเขาพูดถึงแต่เรื่องเบาหวานและโรคอ้วน เขาต้องกินยาลดความอ้วนสูตรสำหรับคนเป็นโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังต้องรับการอบรมเรื่องโภชนาการและเข้าคอร์สออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายปี

เคราต์บอกว่า เขาลดน้ำหนักไปได้กลายกิโลกรัม หลังจากปรับเปลี่ยนอาหารตามหลักโภชนาการและกินยาลดความอ้วน ใบหน้าและแขนขาของเขาดูผอมมาก แต่พุงของเขาไม่ได้ลดขนาดลงเลย นอกจากนี้เขายังโดนแพทย์ตำหนิว่า กินอาหารไม่ดีจนมีภาวะทุพโภชนาการ

แต่ระหว่างการตรวจร่างกายก่อนผ่าตัดกระเพาะ ทีมแพทย์พบว่าผิวหนังหน้าท้องของเคราต์นั้นแข็งมาก แสดงว่าไม่ใช่ขั้นไขมันซึ่งจะมีความอ่อนนุ่มเมื่อสัมผัส จึงสั่งให้เขาเข้าไปรับการถ่ายภาพซีทีสแกน ซึ่งผลปรากฏว่าเขามีเนื้องอกขนาดใหญ่อยู่ในช่องท้อง

เคราต์ยอมรับว่าเขาช็อกมาก หลังจากที่ได้รู้ความจริง นอกจากนี้ยังต้องรับรู้อีกว่าเจ้าเนื้อร้ายกำลังกัดกินไตข้างขวาของเขา 

ทีมแพทย์ใช้เวลานานถึง 2 สัปดาห์กว่าจะสรุปการวินิจฉัยได้ว่า เคราต์ป่วยเป็นโรคเนื้องอกไขมันชนิดที่หาได้ยาก ซึ่งเกิดจากการที่มีไขมันห่อหุ้มก้อนเนื้อมะเร็งขนาดเล็กหลายก้อนที่อยู่ใกล้ ๆ ไว้ด้วยกัน

เคราต์เข้ารับการผ่าตัดที่ยาวนานถึง 10 ชั่วโมงเพื่อกำจัดก้อนเนื้อร้ายเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2566 ซึ่งหลังจากผ่าตัดก้อนเนื้อดังกล่าวออกมาก็พบว่ามันน้ำหนักถึง 27 กก. และมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 52.3 ซม. 

สภาพของเคราต์หลังจากผ่าตัดเอาเนื้องอกออกไปแล้ว

ก้อนเนื้อร้ายนี้ได้สร้างความเสียหายต่อร่างกายของเคราต์อย่างมาก ทำให้ต้องผ่าตัดนำบางส่วนของลำไส้เล็กและไตข้างขวาของเขาออกไปด้วย นอกจากนี้ เขายังคงมีเนื้อเยื่อที่มีเชื้อมะเร็งเติบโตอยู่ในร่างกายของเขา ซึ่งไม่สามารถผ่าตัดออกไปได้เพราะมันเชื่อมต่อกับอวัยวะหลายส่วนในร่างกาย ทำให้เขาต้องไปตรวจซ้ำปีละ 2 ครั้งกับแพทย์ด้านมะเร็งพร้อมกับต้องไปรับการบำบัดทางจิตใจทุก 2 สัปดาห์ 

ขณะนี้ เคราต์และภรรยากำลังยื่นฟ้องทีมแพทย์ที่เคยวินิจฉัยโรคของเขาผิดพลาด ทำให้ไม่มีการตรวจพบเนื้องอกร้ายแรงแต่เนิ่น ๆ อย่างไรก็ตาม ทางทีมแพทย์ก็อ้างว่า โรคเนื้องอกชนิดนี้เกิดขึ้นได้ยากมาก จึงไม่ควรนำมาเป็นข้ออ้างในการตำหนิที่ตรวจไม่พบ

แต่เคราต์ก็ไม่ยอมแพ้ ทีมทนายความของเขาได้ยื่นคำร้องขอคัดค้านการยกฟ้องไปเรียบร้อยแล้ว

ที่มาและเครดิตภาพ : nypost.com