เมื่อวันที่ 24 ต.ค. นายฉัตรชัย โลหะมาตย์ กำนันตำบลหนองกุง ประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจังหวัดขอนแก่น อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น  ได้รับการประสานจากนายไพทูล อุทัยทะวัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 บ้านท่าโพธิ์ ต.ท่ากระเสริม อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ว่า ทางวัดอีสาน ส. โดยพระสมุห์วราวุฒิ เตชธมฺโม เจ้าอาวาส ว่ามีพระลูกวัด ได้พาผู้หญิงไปหลับนอนภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่งในเขตเทศบาลตำบลวังชัย จึงได้ประสานไปยังตำรวจสายตรวจ สภ.น้ำพอง และเดินทางไปยังที่แจ้งดังกล่าว

พบว่ารีสอร์ทดังกล่าว อยู่ริมบึงน้ำขนาดใหญ่ จากการสอบถามผู้ดูแลทราบว่า ที่ห้องหมายเลข 9 มีชายหญิงมาเปิดห้องพัก พบจยย.สกู๊ปปี้ สีขาว จอดอยู่หน้าห้อง ตำรวจจึงได้เคาะประตูแรก พร้อมกับแสดงตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ กระทั่งมีชายสูงอายุเปิดประตูออกมา ลักษณะนุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาว ไม่สวมเสื้อ ศีรษะโล้น ไม่มีคิ้ว ภายในห้อง พบผู้หญิง อายุประมาณ 40 ปี กึ่งนอนกึ่งนั่งนุ่งผ้าเช็ดตัวสีแดง จึงได้เชิญตัวออกมาจากห้องพร้อมกับสอบถามจนทราบว่า ผู้ชายคือนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 53 ปี เป็นพระลูกวัดอีสาน ส.

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้แจงเหตุผลที่เข้ามาขัดจังหวะความสุข แต่ไม่ทันจะชี้แจงเสร็จทางผู้ถูกกล่าวหาได้กล่าวสวนขึ้นมาทันทีว่า รู้แล้วว่าใครเป็นคนแจ้ง เจ้าอาวาสใช่ไหม ต้องเห็นดีกันแน่นอน พร้อมกับยอมรับว่าตนเองเป็นพระลูกวัดจริง แต่นี่มันออกพรรษาแล้ว จะไปที่ไหนก็ได้ คนอื่นไม่ต้องมายุ่ง เมื่อถามถึงจีวรอ้างว่าไม่มี แล้วสึกจากเป็นพระหรือยังถึงมาทำอย่างนี้ ก็อ้างว่ายังไม่สึก ต้องการรับกฐินก่อน พร้อมกับอ้างว่า ถ้าออกพรรษาไม่น่าจะก้าวก่ายกัน ตนเองจะไปที่ไหนก็ได้ มันไม่อยู่พรรษาแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.น้ำพอง

ด้าน พระครูสมุห์วราวุฒิ กล่าวว่า สำหรับพระเอ ได้มาบวชที่วัดเมื่อช่วงเข้าพรรษา อยู่มาจนครบพรรษา ช่วงบวชมีความประพฤติทางสงฆ์ไม่ขาดตกบกพร่อง แต่มีนิสัยเจ้าเล่ห์ ชอบโกหก และอารมณ์ร้าย โดยถูกตำหนิบ่อยครั้งเกี่ยวกับเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ โดยในวันนี้ทางวัดได้จัดเตรียมต้อนรับกฐิน พระเอ ได้มาขอตัวว่าไปซื้อยาแก้ไมเกรน อาตมาจึงบอกว่าให้โยมไปซื้อให้ แต่ทางพระอารมณ์ว่าจะไปซื้อเอง โดยให้โยมขับรถยนต์ของพระที่มาบวชในวัดพาออกไป แต่ก็ได้รับแจ้งว่า ได้ไปส่งพระที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง โดยทางพระได้ทำการถอดจีวรสวมเสื้อเป็นฆราวาสไปนอนกับสีกา ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเคยประพฤติแบบนี้มาแล้วครั้งหนึ่งแล้ว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะ พบสารเสพติดในร่างกาย โดยจะส่งปัสสาวะให้กับทางแพทย์ทำการพิสูจน์อีกครั้ง เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาเสพยาเสพติด และมีสารเสพติดในร่างกาย ส่วนทางสงฆ์ได้ขาดจากการเป็นพระสงฆ์โดยไม่ต้องทำการสึก ในข้อหาเสพเมถุน ปาราชิกไปโดยปริยาย