สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ว่า สื่อใหญ่หลายแห่งของสหรัฐ รวมถึง ซีเอ็นเอ็น และเอ็นบีซี สรุปผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ซึ่งมีการลงคะแนนพร้อมกับการเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่าพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ด้วยจำนวนที่นั่งอย่างน้อย 218 ที่นั่ง ส่วนพรรคเดโมแครตมีจำนวนที่นั่งอย่างน้อย 208 ที่นั่ง
ในส่วนของการเลือกตั้งวุฒิสมาชิก ซึ่งมีการเลือกตั้งใหม่ 34 จาก 100 ที่นั่ง เมื่อสรุปจำนวนที่นั่ง ปรากฏว่า พรรครีพับลิกันมี 52 ที่นั่ง พรรคเดโมแครต 47 ที่นั่ง และวุฒิสมาชิกอิสระอีก 2 ที่นั่ง
ผลการเลือกตั้งทั้งหมดที่ออกมา หมายความว่า พรรครีพับลิกันครองอำนาจทั้งในฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติอย่างสมบูรณ์ โดยเป็นครั้งแรกต่อจากรัฐบาลสมัยแรกของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อปี 2560 ที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐ อยู่ภายใต้การครองเสียงข้างมากโดยพรรคการเมืองเดียว
นอกจากนี้ การที่เสียงส่วนใหญ่ของคณะตุลาการศาลฎีกา ยังคงเป็นฝ่ายอนุรักษนิยม จากการที่ทรัมป์เคยแต่งตั้งผู้พิพากษาไว้หลายคนแทนผู้ที่เสียชีวิต ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งสมัยแรกระหว่างปี 2560-2564 หมายความว่า การกลับมาเป็นผู้นำสหรัฐสมัยที่สองของทรัมป์ จะเผชิญกับการคัดค้านหรือการถ่วงดุลโดยศาลสูงสุดของประเทศ น้อยกว่าประธานาธิบดีสหรัฐหลายคนที่ผ่านมา
ด้านนายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ จากพรรครีพับลิกัน แสดงความยินดีกับชัยชนะครั้งสำคัญของพรรค ขณะที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เรียกร้องวุฒิสภาเร่งรับรองคุณสมบัติ ให้กับผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES