สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 พ.ย. ว่า เดอะ นิวยอร์ก ไทม์ส และเดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานโดยอ้างข้อมูลจากแหล่งข่าว ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ อนุมัติให้ยูเครนสามารถใช้อาวุธโจมตีที่มีพิสัยทำการระยะไกล ซึ่งได้รับจากสหรัฐ เพื่อโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในรัสเซีย เพื่อตอบโต้ที่เกาหลีเหนือส่งทหารมาช่วยรัสเซียสู้รบในยูเครน
ทั้งนี้ ยูเครนเรียกร้องมานาน ขอให้สหรัฐอนุญาตอย่างเป็นทางการ ในการใช้ระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีระยะทำการไกล “อะแทคซิมส์” (Army Tactical Missile System – ATACMS) รุ่นใหม่ ที่มีพิสัยทำการระยะไกลถึง 300 กิโลเมตร เพื่อโจมตีเป้าหมายในรัสเซีย ปัจจุบัน กองทัพยูเครนใช้งานระบบอะแทคซิมส์ระยะใกล้ของสหรัฐ ที่มีพิสัยทำการประมาณ 165 กิโลเมตร
ขณะที่รัสเซียยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของสหรัฐ แต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวมาตลอดว่า หากกองทัพยูเครนใช้อาวุธโจมตีที่มีพิสัยทำการระยะไกล ทั้งของสหรัฐและพันธมิตรได้มากขึ้น “จะเป็นการเปลี่ยนพื้นฐานของสงครามครั้งนี้อย่างมีนัยสำคัญ”
นอกจากนั้น จะหมายความว่า สมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งรวมถึงสหรัฐและหลายประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) “ทำสงครามโดยตรงกับรัสเซีย” และรัฐบาลมอสโกจะตอบโต้ตามความเหมาะสม โดยขึ้นอยู่กับรูปแบบของภัยคุกคาม
ด้านยูเครนประกาศมาตรการจำกัดการใช้กระแสไฟฟ้าทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย. เนื่องจากโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องได้รับความเสียหายอย่างหนัก จากการโจมตีครั้งใหญ่รอบล่าสุดของกองทัพรัสเซีย ที่เป็นการใช้ทั้งขีปนาวุธและโดรนจำนวนมาก อีกทั้งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย ในภูมิภาคเคียฟและพื้นที่ใกล้เคียง และอีกอย่างน้อย 10 ราย ในภูมิภาคซูมี ทางตอนใต้ของประเทศ.
เครดิตภาพ : AFP