ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียโพสต์คลิปวิดีโอเผยช่วงเวลาอันน่าสะพรึงกลัวเมื่อผู้โดยสารเกือบจะกระเด็นออกจากที่นั่งในขณะที่เครื่องบินพาณิชย์ลำหนึ่งกำลังประสบปั่นป่วนเนื่องจากตกหลุมอากาศ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับเที่ยวบินของสายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ออกเดินทางจากกรุงสตอกโฮล์มไปยังไมอามี รัฐฟลอริดา เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว และแม้ว่าเครื่องบินจะเดินทางไปถึงชายแดนแคนาดาแล้ว แต่ก็จำต้องบินวกกลับไปยังต้นทางที่ยุโรป เนื่องจากเครื่องบินที่มีผู้โดยสาร 254 คน รวมทั้งเด็กทารก 1 คน ต้องประสบภาวะปั่นป่วนชวนอกสั่นขวัญแขวนเนื่องจากตกหลุมอากาศอย่างรุนแรง
ผู้โดยสารคนหนึ่งบนเที่ยวบินซึ่งเดินทางพร้อมกับภรรยาได้โพสต์คลิปวิดีโอบน “ติ๊กต็อก” และต่อมาได้แพร่กระจายไปตามโซเชียลมีเดียหลายแพลตฟอร์ม แสดงให้เห็นภาพภายในเครื่องบินซึ่งเต็มไปด้วยผู้โดยสารที่กำลังกรีดร้องอย่างตื่นตระหนกขณะที่เครื่องบินสั่นสะเทือนไปทั้งลำ ผู้โดยสารบางรายโดนแรงเหวี่ยงจนกระเด็นออกจากที่นั่ง ศีรษะของพวกเขาก็เกือบกระแทกหลังคาห้องโดยสาร
ภาพวิดีโอที่น่าตกตะลึงดังกล่าวมีคำบรรยายภาพว่า: “ดูเท้าของเธอแตะเพดานสิ! นึกว่าจะตายซะแล้ว!” ต่อมา สายการบินดังกล่าวระบุว่า จำเป็นต้องตรวจสอบปัญหาทางเทคนิคของเครื่องบิน อีกทั้งไม่มีอุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับแก้ไขปัญหานี้ที่ไมอามี ดังนั้น นักบินจึงต้องบินวกกลับไปยังโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ของบริษัทแทน ทั้งที่เครื่องบินเดินทางมานาน 9 ชม.และใกล้จะถึงจุดหมายปลายทางแล้ว
รายงานระบุว่าผู้โดยสารทุกคนบนเครื่องก็ต้องบินกลับทั้งหมดด้วย และได้รับข้อเสนอชดเชยเป็นห้องพักในโรงแรมที่โคเปนเฮเกนในคืนวันพฤหัสบดี จากนั้นจะได้เดินทางด้วยเที่ยวบินใหม่ไปยังไมอามีในวันศุกร์ที่แล้ว
แม้ภาพจะดูน่าหวาดเสียว แต่ก็ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ยังมีผู้โพสต์ภาพจากเที่ยวบินเดียวกันแสดงให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นระหว่างเครื่องบินตกหลุมอากาศ โดยข้าวของต่าง ๆ เช่น แก้วพลาสติก ถุงกระดาษ เป้สะพาย ตกหล่นกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นห้องโดยสาร
ก่อนหน้านี้ในเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา เคยมีเที่ยวบินของสายการบินสแกนดิเนเวียนแอร์ไลน์ต้องเปลี่ยนเส้นทางอย่างกะทันหัน หลังจากผู้โดยสารพบหนูเป็น ๆ ในอาหาร และจำเป็นต้องลงจอดฉุกเฉิน โดยทางสายการบินอธิบายว่า การมีหนูบนเครื่องบินก่อให้เกิดปัจจัยเสี่ยงด้านความปลอดภัยเพราะสัตว์ดังกล่าวอาจกัดแทะและก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าของเครื่องบิน
ที่มา : mirror.co.uk
เครดิตภาพ : Tiktok/exportfromus.carsnipers