“น้ำส้มสายชู” ที่หมดอายุแล้ว ไม่ควรนำไปประกอบอาหาร หรือใช้เป็นเครื่องปรุงรส เนื่องจากไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้ อย่างไรก็ตาม หากเรามีน้ำส้มสายชูที่หมดอายุเป็นจำนวนมาก การจะทิ้งมันไปก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย เพราะมันยังคงมีประโยชน์มากมาย
Mizkan บริษัทน้ำส้มสายชูยี่ห้อดังของญี่ปุ่น ได้ให้คำแนะนำเอาไว้ สำหรับน้ำส้มสายชูที่หมดอายุแล้ว สามารถนำไปใช้ทำความสะอาดสิ่งต่าง ๆ ซึ่งให้ผลลัพธ์ได้อย่างน่าประทับใจ
น้ำส้มสายชูที่ไม่เติมน้ำตาลหรือเกลือ สามารถนำไปใช้ฆ่าเชื้อ “เขียง” และ “ฟองน้ำ” ได้
วิธีใช้น้ำส้มสายชูฆ่าเชื้อและทำความสะอาด “เขียง”
- ล้างเขียงให้สะอาดด้วยผงซักฟอก แล้วล้างออกด้วยน้ำ
- นำผ้าแห้งมาวางปิดบนเขียง แล้วโรยน้ำส้มสายชูลงไป (ปริมาณน้ำส้มสายชูที่แนะนำคือน้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย + เกลือ 1/2 ช้อนโต๊ะ + น้ำ 3/4 ถ้วย)
- ทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
วิธีใช้น้ำส้มสายชูฆ่าเชื้อและทำความสะอาด “ฟองน้ำ”
- ล้างฟองน้ำให้สะอาดด้วยผงซักฟอก แล้วล้างด้วยน้ำ
- แช่ฟองน้ำในน้ำส้มสายชูที่อุ่นให้ได้อุณหภูมิประมาณ 45 องศาเซลเซียส หรือสูงกว่า (ปริมาณน้ำส้มสายชูที่แนะนำ: น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ + เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ + น้ำร้อน 1 ถ้วย)
- ถูฟองน้ำที่แช่อยู่ในน้ำส้มสายชูเบา ๆ
- บีบฟองน้ำให้แห้ง หลังจากทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที
วิธีการฆ่าเชื้อข้างต้น ไม่สามารถใช้ได้กับน้ำส้มสายชูที่เติมน้ำตาลหรือเกลือ
น่าเสียดายที่น้ำส้มสายชูปรุงรสและเครื่องดื่มน้ำส้มสายชูที่เลยวันหมดอายุไปแล้ว ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทิ้งไป
วิธีการเก็บรักษาน้ำส้มสายชู
น้ำส้มสายชูที่ไม่เติมน้ำตาลหรือเกลือ : สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องได้ หลีกเลี่ยงไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง เก็บในที่เย็นถ้าเป็นไปได้ เมื่ออุณหภูมิสูง แนะนำให้เก็บไว้ในตู้เย็น
น้ำส้มสายชูที่เติมน้ำตาลหรือเกลือ : อย่าลืมแช่เย็นหลังเปิด ไม่สามารถเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้องได้.
ที่มาและภาพ : grape
