นายอิทธิ ศิริลัทธยากร  รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า  กรมฝนหลวงและการบินเกษตร มีภารกิจหลักในการบรรเทาปัญหาภัยแล้ง การเติมน้ำต้นทุนในพื้นที่ลุ่มรับน้ำ ให้มีความมั่นคงในภาคการเกษตร อีกทั้งยังมีภารกิจในการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยีฝนหลวง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการฝนหลวง การติดตามและตรวจสภาพอากาศ ภารกิจด้านอากาศยานที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้นำเทคโนโลยีที่มีความเจริญก้าวหน้ามาใช้ที่มีส่วนช่วยให้การทำฝนมีความแม่นยำตรงต่อความต้องการของประชาชนมากยิ่งขึ้น อีกทั้ง “ฝนหลวง” เป็นเทคโนโลยีที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงประดิษฐ์คิดค้นพัฒนาตามพระราชปณิธานที่จะทรงช่วยเหลือเกษตรกรและพสกนิกรทั่วไป ให้มีทรัพยากรน้ำในปริมาณที่เพียงพอต่อความต้องการนำไปใช้เพื่ออุปโภคและบริโภค นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรชาวไทยและคนทั่วโลก

อย่างไรก็ตาม รัฐบาล และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้คำนึงผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ  จึงได้มีมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน โดยขณะนี้ ได้ประสานความร่วมมือกับนายจักรพงษ์ แสงมณี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในการวางแผนและร่วมมือกัน โดยในเบื้องต้น กระทรวงเกษตรฯ และกรมวิทยุการบิน กระทรวงคมนาคม จะวางแผนงานร่วมกัน เพื่อให้การปฏิบัติการฝนหลวง ลดฝุ่น PM 2.5 เกิดประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการขึ้นปฏิบัติการเหนือน่านฟ้าในกรุงเทพมหานครนั้น เป็นข้อจำกัดของกรมฝนหลวงฯ มาโดยตลอด  โดยความร่วมมือกันในครั้งนี้ จะช่วยให้สามารถปฏิบัติการได้ทันท่วงที และไม่กระทบต่อการจราจรของเส้นทางการบินที่มีความสำคัญในธุรกิจการบิน

ในฐานะกำกับดูแลกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้สั่งการให้กรมฝนหลวงฯ เตรียมตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ลดฝุ่น PM 2.5 เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 นอกจากกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลแล้ว ยังมีพื้นที่เป้าหมายในภาคเหนือ และพื้นที่เป้าหมายอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบจาก PM 2.5 โดยจะเริ่มในเดือนธันวาคมนี้ เพื่อมุ่งหวังจะยกระดับวิถีชีวิตประชาชนในทุกมิติ รวมถึงสิทธิขั้นพื้นฐานอากาศสะอาด โดย PM 2.5 เป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง