สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารามาริโบ ประเทศซูรินาเม เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ว่า รัฐบาลซูรินาเมคาดการณ์ ว่าจะกวาดรายได้ประมาณ 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 346,794 ล้านบาท) ภายในระยะเวลาอีก 10-20 ปีข้างหน้า จากแหล่งน้ำมันดิบนอกชายฝั่งที่เพิ่งได้รับการค้นพบ เมื่อไม่นานมานี้
ปัจจุบัน เกือบ 1 ใน 5 ของประชากรในซูรินาเม อาศัยอยู่ในความยากจน ขณะที่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำปี อยู่ที่ 3,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 117,946 ล้านบาท) ตามตัวเลขของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์)
เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา “โททาลเอนเนอร์ยีส์” ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทพลังงานข้ามชาติของสัญชาติฝรั่งเศส ประกาศโครงการมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อขุดเจาะแหล่งน้ำมันนอกชายฝั่งซูรินาเม ในปี 2571 ซึ่งจะมีกำลังการผลิต 220,000 บาร์เรลต่อวัน
#Suriname president announces oil 'royalties for everyone'https://t.co/f9ZFgpKI9G
— The Peninsula Qatar (@PeninsulaQatar) November 25, 2024
ทั้งนี้ ซานโตกีประกาศจ่ายค่าสิทธิให้แก่ประชาชนทุกคน ที่ได้รับประโยชน์จากน้ำมันและก๊าซ โดยชาวซูรินาเมจะได้รับเงินคนละ 750 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 26,032 บาท) ซึ่งภาครัฐจะโอนเข้าสู่บัญชีออมทรัพย์โดยตรง พร้อมอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี
ก่อนหน้านี้ ผู้นำซูรินาเมกล่าวว่า ตระหนักดีถึง “คำสาปน้ำมัน” หรือ “โรคดัตช์” ซึ่งหมายถึงการเติบโตในภาคน้ำมัน และการหลั่งไหลของเงินตราต่างประเทศ จนทำให้ภาคเศรษฐกิจอื่น ๆ ของประเทศ ถูกละเลยและถดถอย
ด้วยเหตุนี้ ซูรินาเมจึงจัดตั้ง “กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ” ตามรอยนอร์เวย์ ซึ่งเป็นประเทศเดียวที่ซานโตกีมองว่า รอดพ้นจาก “คำสาป” นั้นแล้ว.
เครดิตภาพ : AFP