“รังนก” มีสารอาหารสูง ดีต่อสุขภาพ แต่การจะแยกแยะว่า รังนกเป็นของแท้ หรือของปลอมด้วยตาเปล่านั้น ยากมาก ๆ

ดร.เจือง ฮง ซอน ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์ประยุกต์แห่งเวียดนาม ระบุว่ารังนกมีคุณค่าทางโภชนาการสูง และดีต่อสุขภาพ ช่วยเพิ่มสุขภาพกระดูกและสมอง ปรับปรุงระบบย่อยอาหาร และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน

โดยปกติแล้ว ผู้บริโภคจะจำแนก “รังนกแท้” กับ “รังนกปลอม” ผ่านการสังเกตได้ยากมาก จึงทำให้พลาดท่าถูกหลอกให้ซื้อรังนกปลอม หรือรังนกคุณภาพต่ำได้

รังนกปลอมอาจทำจากผงเยลลี่ แป้ง ไข่ขาว วุ้นเส้น และสารประกอบบางชนิดที่ไม่ทราบที่มา

การรับประทานรังนกปลอม ไม่เพียงแต่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมอีกด้วย อาจก่อให้เกิดผลไม่พึงประสงค์บางประการ

วิธีแยกแยะ “รังนกแท้” และ “รังนกปลอม”

เราสามารถใช้เกณฑ์ด้านล่าง เพื่อช่วยแยกแยะรังนกแท้กับรังนกปลอมคุณภาพต่ำได้

สีเส้นใยรังนก

รังนกแท้ในท้องตลาดมี 3 แบบ ได้แก่ “รังนกสีขาวขุ่น”, “รังนกสีชมพูอ่อน” ที่อาจเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือสีส้มได้, “รังนกสีเลือด” หรือ สีแดง รังนกปลอมจะมีสีขาวสว่าง หากโดนแสงจะมองเห็นรังนกโปร่งใส นอกจากนี้เมื่อสังเกตรังนกจริงจะมองเห็นได้ง่ายว่า เส้นใยรังพันกัน

รสชาติ

วิธีตรวจสอบว่ารังนกแท้หรือปลอมคือ “การลองชิม” ถ้าไม่หวานจนเกินไป และมีรสชาติเหมือนไข่ขาว ก็แสดงว่าเป็นรังนกแท้ หากมีรสหวาน นั่นคือรังนกคุณภาพต่ำ เพราะมักผสมกับน้ำตาลเพื่อให้เกิดการยึดเกาะ

ความยืดหยุ่นของรังนก

คุณสามารถตรวจสอบว่ารังนกเป็นของแท้หรือไม่ ด้วยการบีบรังนกเบาๆ หากเปราะแตกหักง่าย แสดงว่าเป็นรังนกแท้ รังนกปลอมผสมกับสารอื่น ๆ มากมาย จึงมักมีความนุ่ม และยืดหยุ่นมากกว่า

แช่น้ำ

นี่เป็นวิธีที่ง่ายและแม่นยำสูงในการระบุ รังนกแท้ กับ รังนกปลอม เมื่อแช่น้ำ รังนกแท้จะค่อยๆ ขยายตัว คงสีเดิม และมีกลิ่นคล้ายไข่ขาว หากรังนกละลายน้ำแล้วเปลี่ยนสี มีกลิ่นแปลกๆ จากสารปรุงแต่ง เป็นสินค้าปลอมที่มีคุณภาพต่ำ

ข้อควรทราบเมื่อจะรับประทานรังนก

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า รังนกเป็นอาหารที่ช่วยเพิ่มความต้านทานของร่างกาย แต่การใช้ในปริมาณที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่เหมาะสม อาจส่งผลเสียได้ คนที่รักสุขภาพ การกินรังนกเป็นประจำอาจไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพมากนัก อย่างไรก็ตาม ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยที่รับประทานรังนกมากเกินไป จะส่งผลเสียต่อระบบย่อยอาหาร โดยเฉพาะสุขภาพโดยรวม เพราะส่วนผสมในรังนกมีโปรตีนถึง 45-55% การรับประทานโปรตีนมากเกินไป ไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย

ดังนั้น ผู้สูงอายุและผู้ป่วย ควรรับประทานรังนกเพียงสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 3 กรัม นอกจากนี้ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้รับประทานรังนกในระยะยาวและสม่ำเสมอ

เด็กอายุต่ำกว่า 1 ปี ไม่ควรรับประทานรังนกไม่ว่าในรูปแบบใดๆ เนื่องจากระบบย่อยอาหารยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทารกไม่สามารถดูดซึมสารอาหารจากรังนกได้ทั้งหมด

เด็กอายุ 1-3 ปี สามารถฝึกกินรังนกหรือดื่มน้ำรังนกได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากรังนกเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ และมีโปรตีนสูง พ่อแม่จึงต้องใส่ใจในปริมาณ เพื่อหลีกเลี่ยงการที่ลูกจะได้รับสารอาหารมากเกินไปในคราวเดียว ซึ่งไม่ดีต่อร่างกาย โดยผู้ปกครองสามารถให้เด็กๆ ทำความคุ้นเคยกับการกินรังนกได้ครั้งละประมาณ 1-2 กรัม สัปดาห์ละ 3 ครั้ง

เด็กอายุ 3-10 ปี จะเริ่มมีพัฒนาการทางสมองและร่างกาย ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เหมาะสมที่สุดในการรับประทานรังนก เพราะให้พลังงานและสารอาหารเพียงพอแก่เด็กๆ สามารถรับประทานได้ครั้งละ 2-3 กรัม สัปดาห์ละ 3 ครั้ง

ที่มาและภาพ : VTC, Soha