เมื่อวันที่ 28 พ.ย. นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ ได้ลงนามหนังสือถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2567 เพื่อขอให้มีการลงโทษข้าราชการที่ฝ่าฝืนนโยบายลดอุบัติเหตุของรัฐบาล โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2567 กรณีน.ส.พิมพ์นารา ปุณณเกียรติกร ปลัดอำเภอเมืองจังหวัดตาก ขับขี่รถยนต์ขณะเมาสุราและชนกับรถจักรยานยนต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน คือ นายเอกภพ จรัสวิทยากร อายุ 17 ปี และ น.ส.วรกานต์ อ่วมปิน อายุ 17 ปี ในพื้นที่สถานีตำรวจภูธรอุ้มผาง จ.ตาก ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ผู้ว่าราชการจังหวัดตากได้สั่งย้ายปลัดอำเภอฯ ไปช่วยราชการที่ทำการปกครองจังหวัดตาก เพื่อให้การสอบสวนดำเนินไปอย่างโปร่งใส และตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงต่อไป

มูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยอีกว่า เนื่องด้วยปลัดอำเภอคนดังกล่าว ได้ขับขี่รถยนต์ขณะเมาสุราเป็นเหตุให้ชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต 2 คน มูลนิธิเมาไม่ขับในฐานะองค์กรสาธารณประโยชน์ ที่ทำงานสนับสนุนการรณรงค์และการบังคับใช้กฎหมายเมาไม่ขับมาตั้งแต่ปี 2539 จึงมีหนังสือมายัง นายอนุทิน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) และในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกระทรวงมหาดไทย เพื่อขอให้พิจารณาสั่งการไปยังอธิบดีกรมการปกครองในฐานะผู้บังคับบัญชาสูงสุดของปลัดอำเภอหนึ่งในจังหวัดตาก ให้มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน และพิจารณาลงโทษทางวินัยสถานหนัก

มูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยอีกว่า เราขอยืนยันว่า ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองอันใดเป็นการส่วนตัวกับปลัดอำเภอฯ ผู้ก่อเหตุ แต่ในฐานะที่มูลนิธิเมาไม่ขับได้ทำการรณรงค์และสนับสนุนการบังคับใช้กฎหมายมากว่า 30 ปี เล็งเห็นว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการสะท้อนถึงภาพลักษณ์ของกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงในการดูแลความปลอดภัยของประชาชนบนท้องถนน ประกอบกับ ปลัดอำเภอฯ ในฐานะข้าราชการในกระทรวงมหาดไทย ต้องตระหนักถึงหน้าที่รับผิดชอบต่อประชาชน

มูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยอีกว่า อีกทั้งปลัดอำเภอฯ ยังเป็นศปถ.อำเภอ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการบริหารจัดการความปลอดภัยทางถนนให้กับประชาชน การฝ่าฝืนกฎหมายด้วยการเมาแล้วขับจนเป็นเหตุให้มีนักเรียนซึ่งกำลังจะเป็นอนาคตของชาติต้องเสียชีวิตถึง 2 คน ไม่ใช่เหตุของความประมาทแต่เป็นเหตุแห่งการขาดจิตสำนึกในหน้าที่ข้าราชการที่ดี เนื่องจากนโยบายเมาไม่ขับเป็นนโยบายของกระทรวงมหาดไทยและของรัฐบาล

มูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยอีกว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม ได้มีการรณรงค์อย่างกว้างขวางเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงภัยอันตรายจากการเมาแล้วขับ ในฐานะผู้รักษากฎหมายกระทำการฝ่าฝืนเสียเองจะเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีกับข้าราชการรายอื่นๆ และก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่เสียหายต่อข้าราชการกระทรวงมหาดไทยในสายตาของประชาชน อย่างไรก็ตาม มูลนิธิเมาไม่ขับจึงมีหนังสือมาเพื่อให้ท่านได้โปรดพิจารณาดำเนินการลงโทษทางวินัยสถานหนักเพื่อผดุงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีของข้าราชการกระทรวงมหาดไทย