เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา พ.ต.อ.กรกฎ โปชยะณิช ผกก.สภ.เมืองนครราชสีมา สั่งการให้ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ย้ายโต๊ะทำงานมารับแจ้งความด้านนอก หลังจากพบว่ามีผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่เทศกิจฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อภายในอาคารที่ทำการ ห้องขังผู้ต้องหา และพื้นที่โดยรอบ อีกทั้งให้บุคลากรสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมาตรวจคัดกรอง ATK ให้ตำรวจและผู้ต้องขังรวมทั้งผู้ที่เกี่ยวข้อง 61 ราย พบผลบวก 30 ราย เป็นผู้ต้องขัง 26 ราย ตำรวจสิบเวรที่ปฏิบัติหน้าที่หน้าห้องขัง 2 ราย และฝ่ายสืบสวน 1 ราย จากนั้นได้ประสาน รพ.มหาราชนครราชสีมา ดำเนินการส่งตัวผู้ที่มีผลบวก 2 ขีด ไปตรวจ RT-PCR ยืนยันการติดเชื้อต่อไป พร้อมสั่งกักตัวกลุ่มเสี่ยงอีกจำนวนมาก

ด้าน พ.ต.อ.กรกฎ เปิดเผยว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง(ตม.) นครราชสีมา นำผู้ต้องกักต่างด้าวรอผลักดันส่งกลับจำนวนหนึ่งมาฝากขังที่ สภ.เมืองนครราชสีมา แต่ช่วงเวลานี้พรมแดนประเทศเพื่อนบ้านปิด เนื่องจากป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 กระทั่งเมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง พบว่า ชายชาวเยอรมนี อายุ 70 ปี ที่นำมาฝากขังไว้ที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. ผลตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงนำตัวไปตรวจอีกครั้งที่ รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ผลยืนยันว่าติดเชื้อ ทำให้ สภ.เมืองนครราชสีมา ประสานหน่วยงานสาธารณสุขมาตรวจคัดกรองผู้ต้องขังและผู้ต้องกักรวม 39 ราย จนพบผู้ติดเชื้อดังกล่าว

ทั้งนี้ขอประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ต้องติดต่อราชการให้ดำเนินการ 1.กรณีไม่เร่งด่วนขอให้งดการติดต่อราชการที่ สภ.เมืองนครราชสีมา ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 9 พ.ย. 2.กรณีแจ้งเอกสารสูญหายขอให้แจ้งออนไลน์ 3.กรณีต้องมาพบพนักงานสอบสวนตามนัดหมายหรือติดตามผลคดี ให้โทรประสานเจ้าของคดีทางโทรศัพท์ได้โดยตรง 4.แจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายในพื้นที่ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 044 242555 ตลอด 24 ชั่วโมง แต่การออกระงับเหตุของตำรวจยังดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ซึ่งข้าราชการตำรวจทุกนายได้ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และจะปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดเคร่งครัด