วันที่ 3 ธันวาคม ณ บริเวณอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา นางวัชราภรณ์ รุ่งสาคร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางนลินี ด่านชัยวิจิตร รองประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย คณะรองนายกเหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ดารานักแสดง และนางรำจาก 16 อำเภอ จำนวนกว่า 1,700 คน ร่วมซ้อมใหญ่รำบวงสรวงถวาย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือ พระเจ้าอู่ทอง เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนการรำจริงในวันที่ 6 ธันวาคม โดยได้รับเกียรติจากนายนิวัฒน์ รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายธีรศักดิ์ โฉมศิริ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเดชาธร เชาว์เลขา ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาร่วมชมการฝึกซ้อมใหญ่ในครั้งนี้ด้วย

โดยการรำบวงสรวงนี้ เป็นการรำประกอบเพลง “ยอยศพระรามาธิบดีที่ 1” ที่เนื้อเพลงบรรยายถึงพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระรามาธิบดี หรือพระเจ้าอู่ทอง การกำเนิดของกรุงศรีอยุธยา ศิลปวัฒนธรรม และการทำมาค้าขายที่เจริญรุ่งเรืองในสมัยนั้น โดยในวันรำจริง นางรำทุกคนจะแต่งกายด้วยชุดไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา เพื่อเฉลิมฉลองที่ทางองค์การศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก ได้ขึ้นทะเบียนบัญชีมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2534 ณ เมืองคาร์เธจ ประเทศตูนิเซีย  ทั้งนี้ กำหนดจัดงาน ยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก ระหว่างวันที่ 20-29 มกราคม 2566 ณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา โดยประชาชนที่สนใจสามารถมาร่วมชมความสวยงามได้ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ในวันที่ 6 ธันวาคม ที่บริเวณ พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง

โดยทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกับ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสภาวัฒนธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกันฝึกซ้อมนางรำทั้ง 16 อำเภอ มาร่วมรำหลังจากการประกอบพิธีบวงสรวง นางรำทั้งหมดจะร่วมรำตั้งแต่บริเวณหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง เชื่อมโยงไปถึงพระราชวังโบราณ วัดพระราม และวิหารพระมงคลบพิตร ซึ่งจะอยู่ใกล้เคียงกับ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ศาลหลักเมือง และวังช้างแลเพนียด ล้วนอยู่ในเขตเมืองมรดกโลกและอุทยานประวัติศาสตร์ ขณะนางรำบวงสรวง ภาพที่ปรากฏออกสู่สายตาประชาชน จะสวยสดงดงามสมกับความเป็นเมืองมรดกโลก