จากเหตุการณ์สาวซิ่งเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู ด้วยความเร็ว พุ่งชน 3 แม่ลูกเสียชีวิต บนสะพานข้ามทางรถไฟบ้านหนองหมุก ต.ตากแดด อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร เมื่อคืนวันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา ญาติตั้งสวดอภิธรรมศพจนถึงวันที่ 3 ธ.ค. ก่อนเคลื่อนย้ายทั้ง 3 ศพ ไปเก็บไว้ชั่วคราวที่มูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร จนกว่าจะเรียกร้องความยุติธรรมให้ถึงที่สุด ถึงจะนำร่างทั้ง 3 ไปฌาปนกิจ

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นายประกฤษณ์ สามีและพ่อของผู้เสียชีวิต ร่วมกับ นายสุวิทย์ เพรชทองไทย พี่เขย และ นางนันทพร รัตนภา อายุ 52 ปี เดินทางมา สภ.เมืองชุมพร พร้อมคณะทนายความของทนายแก้ว มาที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการ ศปก. โดยมีพ.ต.อ.ปัญญา ท้วมสี ผกก. สภ.เมืองชุมพร และคณะทีมประกันภัยเข้าห้องประชุมปรึกษาหารือกับคุณพ่อและญาติ โดยไร้วี่แววจากคณะของสาวผู้ขับรถชน ที่ยังไม่มีใครเข้ามาเพื่อร่วมประชุมไกล่เกลี่ย ทางประกันภัย ภาคบังคับ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ รายละ 500,000 บาท ภาคสมัครใจ รายละ 1,000,000 บาท เต็มกรมธรรม์ รวมทั้งสิ้น 4,500,000 บาท สินไหมทดแทนทรัพย์สินเสียหาย 95,000 บาท (จักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือ ไอแพด)

ขนลุกซู่! กู้ภัยเล่าเฮี้ยนศพ 3 แม่ลูก เหยื่อเก๋งบีเอ็มชนดับ มีเสียงร้องไห้ เขย่าโลง

นายคณานุสรณ์ เที่ยงตระกูล ผู้ช่วยเลขาธิการ สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ สำนักงาน คปภ. กล่าวว่า ทางบริษัทได้เร่งรัดจ่ายเงินให้เต็มจำนวน จากกรณีนี้ได้มีการร่วมมือจากเจ้าหน้าที่และพี่สื่อมวลชนเข้ามาประสานงานทางบริษัทได้ดำเนินการจ่ายประกันภัย ภาคบังคับ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ รายละ 500,000 บาท

ภาคสมัครใจ รายละ 1,000,000 บาท เต็ม

กรมธรรม์ รวมทั้งสิ้น 4,500,000 บาท

สินไหมทดแทนทรัพย์สินเสียหาย 95,000 บาท

(จักรยานยนต์ โทรศัพท์มือถือ ไอแพด)

พ.ต.อ.ปัญญา  กล่าวว่า ทางด้านผู้ต้องหาได้มาแจ้งลงบันทึกว่ามีอาการป่วยจึงไม่สามารถเข้ามาประชุมในวันนี้ได้ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย และขอขอบคุณพี่น้องสื่อที่ให้การสนใจและดูแลข่าวนี้เป็นอย่างดี กรณีคดีอาญาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะทำสำนวนส่งอัยการเพื่อทำการสั่งฟ้องต่อไป