นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ประกาศหยุดวิ่งรถบรรทุก 20% หรือประมาณ 7-8 หมื่นคัน ซึ่งเป็นสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภค นำเข้า ส่งออก และสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้าง รถท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. นี้ เบื้องต้นประมาณ 7 วันว่า ต้องพิจารณาว่า รถบรรทุกทที่หยุดวิ่ง เป็นรถประเภทไหน ถ้าหยุดวิ่งขนส่งในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าที่เกี่ยวข้องกับนำเข้า ส่งออก จะส่งผลกระทบอย่างแน่นอน ยิ่งในขณะนี้เป็นช่วงเศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นตัว ภาคการส่งออกกำลังขยายตัว เริ่มประเทศ สินค้าต่างๆ จะเป็นที่ต้องการมากขึ้น ต้องใช้การขนส่งมากขึ้น อยากให้ภาครัฐ และกลุ่มสหพันธ์ฯ หารือกันเพื่อหาทางออกในระยะสั้นที่เหมาะสมร่วมกัน เพราะปัญหาราคาน้ำมันสูง เป็นช่วงระยะสั้นๆ ไม่อยากให้เกิดปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ

นายคงฤทธิ์ จันทริก ผู้อำนวยการบริหาร สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า อยากให้ภาครัฐ นำข้อเสนอของสหพันธ์การขนส่งฯ มาพิจารณาโดยละเอียดว่า มีข้อเสนอใดที่ทำได้บ้าง เช่น การลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันลง หรือภาษีต่างๆ เพื่อลดผลกระทบของกลุ่มรถบรรทุก ไม่เช่นนั้นถ้าหากกลุ่มสหพันธ์การขนส่งฯ หยุดรถจำนวนมาก จะส่งผลกระทบไปเป็นลูกโซ่ ทั้งในส่วนกลุ่มผู้นำเข้า ส่งออก ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ซึ่งหากมีการหยุดรถขนส่งจริง ผลกระทบระยะสั้นอาจเกิดกับกลุ่มผู้ประกอบการที่ขนส่งสินค้าทั่วๆ ไป ขนส่งต่อเที่ยวได้น้อยลง ส่วนผู้ประกอบการที่ใช้กันเป็นประจำ ระยะสั้นอาจจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก เพราะมีสัญญาคอนแทคกันอยู่แล้ว แต่ต้องติดตามปีหน้าว่า กลุ่มผู้ประกอบการขนส่ง จะปรับขึ้นค่าบริการหรือไม่ ถ้าปรับอีกจะยิ่งส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถแข่งขันแน่นอน เพราะขณะนี้ก็ได้รับผลกระทบในเรื่องค่าระวางเรือสูงอยู่แล้ว