สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ว่า นายเกียร์ พีเดอร์เซน ผู้แทนพิเศษด้านกิจการซีเรียของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า สถานการณ์ในซีเรียยังคงมีความน่าวิตกกังวล จากการที่อิสราเอลยกระดับปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย ซึ่งกำลังเผชิญกับภาวะสุญญากาศ จากการที่กองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล โค่นอำนาจของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ซึ่งผูกขาดการปกครองซีเรียมานาน 2 ทศวรรษ


เกี่ยวกับท่าทีของกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม (เอชทีเอส) ซึ่งเป็นผู้นำกองกำลังที่โค่นล้มรัฐบาลอัสซาด ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นกล่าวว่า “จนถึงตอนนี้” เอชทีเอสและพันธมิตร “ยังคงมีท่าทีเป็นมิตร” กับชาวซีเรีย


ทั้งนี้ องค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย (เอสโอเอชอาร์) รายงานว่า นับตั้งแต่มีการยืนยันว่า อัสซาดและครอบครัวเดินทางออกไปจากซีเรีย หลังกองกำลังฝ่ายต่อต้านยกพลเข้าสู่กรุงดามัสกัสสำเร็จ กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีเป้าหมายในซีเรียแล้วมากกว่า 300 ครั้ง


ขณะเดียวกัน ทหารอิสราเอลเข้ายึดครองพื้นที่กันชนบนที่ราบสูงโกลัน ซึ่งเป็นดินแดนพิพาทระหว่างอิสราเอลกับซีเรีย หลังกองทัพซีเรียถอนกำลังทหารและสรรพาวุธ จากการที่ประธานาธิบดีถูกโค่นอำนาจ ซึ่งยูเอ็นเตือนว่า เป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ เพื่อยุติสงครามหกวัน เมื่อปี 2510 และสงครามยมคิปปูร์ เมื่อปี 2516


อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล กล่าวว่า “เพื่อความมั่นคง” ของอิสราเอล ที่ราบสูงโกลัน “เป็นของอิสราเอลตลอดไป” เนื่องจากการที่กองทัพซีเรียถอนกำลังออกจากบริเวณนี้ เท่ากับเป็นการสิ้นสุดข้อตกลงระหว่างประเทศทั้งหมดโดยปริยาย.

เครดิตภาพ : AFP