เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการทหาร กล่าวว่า กรณีที่เรือรบเมียนมายิงเรือประมงไทย เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา จนมีการจับกุมลูกเรือประมงไทย 4 ชีวิต ไปควบคุมตัวไว้ที่เกาะสอง จากการให้สัมภาษณ์ของผู้บัญชาการทัพเรือภาค 3 ทราบว่าจุดเกิดเหตุห่างจากเกาะพยามด้านทิศตะวันตกประมาณ 5 ไมล์ทะเล ขณะที่เกาะพยามกับเกาะย่านเชือก ห่างกันไม่ถึง 8 ไมล์ทะเล โดยพื้นที่เส้นเขตแดนของ 2 ประเทศทับกันอยู่บางส่วนซึ่งเรียกว่า “พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนกัน”
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า สถานการณ์ล่าสุด คือศาลเมียนมา ได้มีคำพิพากษาจำคุกลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 คน โดยตัดสินจำคุกเจ้าของเรือเป็นเวลา 5 ปี ในข้อหาลักลอบทำประมงในน่านน้ำประเทศเมียนมาโดยไม่ได้รับอนุญาต และตัดสินจำคุก 1 ปี ในข้อหาลักลอบเข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมจำคุก 6 ปี ปรับเป็นเงิน 2 แสนจ๊าด ส่วนลูกเรือไทยอีก 3 คน สั่งจำคุกคนละ 3 ปี ในข้อหาทำประมงในน่านน้ำประเทศเมียนมาโดยไม่ได้รับอนุญาต และตัดสินจำคุก 1 ปี ในข้อหาลักลอบเข้าประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมจำคุกคนละ 4 ปี และปรับคนละ 3 หมื่นจ๊าด ซึ่งไม่ได้เป็นการพิพากษาให้เนรเทศออกนอกประเทศ ถือเป็นกระบวนการยุติธรรมที่รวบรัดตัดตอนอย่างมาก ใช้เวลาเพียงไม่ถึง 20 วัน ก็พิพากษาคดีแล้ว ก็ต้องถามว่าที่ผ่านมารัฐบาลไทยได้เข้าให้ความช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย และทนายความแก่ลูกเรือประมงไทยอย่างเพียงพอเหมาะสมหรือไม่
นายวิโรจน์ กล่าวว่า นับจากนี้ สิ่งที่รัฐบาลไทยต้องตื่นตัว และเร่งดำเนินการอย่างด่วนที่สุดก็คือ การประสานเข้าให้ความช่วยเหลือลูกเรือประมงไทยด้านกระบวนการยุติธรรม เพื่อให้มั่นใจว่าลูกเรือประมงไทยจะได้รับความเป็นธรรมต่อกรณีนี้ พร้อมกับเร่งประสานทำความเข้าใจกับครอบครัว และญาติพี่น้องของลูกเรือประมงไทย เพื่อไม่ให้เกิดการเสียขวัญกำลังใจ และเพื่อให้คนไทยทุกคนมีความมั่นใจว่า รัฐบาลไทยจะไม่ทอดทิ้งลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 ชีวิตอย่างแน่นอน รวมทั้งควรประสานให้ครอบครัวของลูกเรือประมงไทยได้เข้าเยี่ยมที่เกาะสอง เพื่อให้มั่นใจว่า ลูกเรือประมงไทยทั้ง 4 ชีวิตยังมีสวัสดิภาพที่ดี
“ล่าสุดทราบว่า นายกรัฐมนตรีเตรียมดำเนินการขออภัยโทษให้กับลูกเรือประมงทั้ง 4 คน จากประเทศเมียนมา ซึ่งกระบวนการดังกล่าวนี้จะต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ และระมัดระวังอย่างมาก หากจุดเกิดเหตุเป็น “พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน” หากเนื้อหาในหนังสือขออภัยโทษ มีประโยคใดประโยคหนึ่ง ที่เข้าข่ายยอมรับว่าเรือประมงไทยได้รุกล้ำน่านน้ำของเมียนมา ก็จะทำให้ในอนาคตเมียนมาจะให้การขออภัยโทษในครั้งนี้มากล่าวอ้างได้ว่ารัฐบาลไทยยอมรับว่าพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนนั้น เป็นน่านน้ำของเมียนมาและจะส่งผลกระทบอย่างมากในเรื่องเขตแดน การทำประมง และการใช้ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล และใต้ทะเลของประเทศไทยในอนาคต ในการประชุม กมธ.ทหาร ในสัปดาห์นี้ ผมจะเร่งทำหนังสือถึงกระทรวงการต่างประเทศ ให้ทราบถึงข้อห่วงใยนี้โดยเร็วที่สุด” นายวิโรจน์กล่าว.