เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ สนามเลือกตั้ง นายก อบจ.สกลนคร ที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 ก.พ. 68 โดยเซียนการเมืองท้องถิ่น ต่างยกเป็น “ศึกแดงเดือด” บทพิสูจน์ ศึกสายเลือด “แดงแท้-แดงเทียม” ระหว่าง “นฤมล สัพโส” ภรรยา พัฒนา สัพโส สส.สกลนคร เขต 4 “พรรคเพื่อไทย” กับ อนุรักษ์ บุญศล อดีต สส. 4 สมัย “พรรคเพื่อไทย” แถมยังมี “ชูพงศ์” อดีตนายก อบจ.สกลนคร เป็นตาอยู่ ยืนผงาด จ่อรักษาแชมป์

โดยรายแรก โฟกัสไปที่ นฤมล สัพโส จากค่ายเพื่อไทย ภรรยา พัฒนา สัพโส สส.สกลนคร เขต 4 พรรคเพื่อไทย มารดาของน้องแจม จิรัชยา สัพโส สส.สกลนคร เขต 3 ได้รับไฟเขียวจาก “ทักษิณ ชินวัตร” ส่งลงสมัครในนาม “พรรคเพื่อไทย” ประกาศชัด “เป็นมติพรรค” และมีแรงหนุนจาก สส.และอดีต สส.เพื่อไทยในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมี สส.ต่างพรรคและนักการเมืองท้องถิ่นเป็นแนวร่วมอีกมาก แบ่งเขตการหาเสียงชัดเจน ได้ สส.พัฒนา สามี และ สส.จิรัชยา ลูกสาว ไปช่วย “เป็นแม่เหล็ก” ดูดคะแนนเสียงด้วยทุกเวที เพิ่มความมั่นใจว่าคว้าชัยได้ไม่ยากเย็น แต่อาจจะต้องเผชิญกับการปั่นกระแสคัดค้าน ประมาณว่า “ให้โอกาสคนอื่นบ้าง” เพราะหากได้รับการเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.จะเป็น “ครอบครัวกินรวบ” ทั้งท้องถิ่นและระดับชาติ แต่เช็กกระแสแล้วยังคงเต็งหนึ่ง เพราะชูแบรนด์ ผู้นำแห่งจิตวิญญาณ “ทักษิณ ชินวัตร” ไฟเขียวเต็มที่ และมีคนเสื้อแดงสนับสนุนตรึมเลย

ส่วน “ครูติ๋ว” อนุรักษ์ บุญศล เจ้าของฉายา “แม่ ผอ.” เนื่องจากอดีตเป็น ผอ.วิทยาลัย และคร่ำหวอดทางการศึกษากว่า 36 ปี มีประสบการณ์ทางการเมืองโชกโชน เพราะเคยเป็นอดีตเพื่อไทย สส. 4 สมัยกว่า 10 ปี แถมยังมีกุนซือใหญ่คือ พงษ์ศักดิ์ บุญศล คนบ้านเดียวกัน อดีต สส. 2 สมัยพรรคไทยรักไทย เป็นแม่ทัพใหญ่ลุยหาเสียง รวมทั้ง ดำเกิง วงศ์กาฬสินธุ์ อดีต สว.2 สมัย เป็นโฆษกที่หลายคนชื่นชอบ ในลีลาการปราศรัย เป็นเจ้าบทเจ้ากลอน สำบัดสำนวนแพรวพราว ถูกใจพ่อยกแม่ยก และยังได้พลพรรค นปช.สายอีสาน สนับสนุนแบบฟูลทีม แบบว่าทีมงาน “ครูติ๋ว” ทั้งแน่นปึ้กและแข็งโป๊ก เอฟซีรุ่นเก่ารุ่นใหม่ส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจกระหึ่ม ถึงวันเลือกตั้งคะแนนบดเบียดกับนฤมล ชนิดหายใจรดต้นคอทีเดียว อยู่ที่ว่าน้ำเลี้ยงจะถึงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ประมาท ดร.ชูพงศ์ คำจวง อดีต นายก อบจ.สกลนคร อดีตนายกสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย เพิ่งลาออกจากตำแหน่ง มีผลตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. 67 ลงสมัครนายก อบจ.สกลนคร ไฟต์นี้ในนามอิสระ ทำให้คู่แข่งอ่านเชิงชกยากหน่อยว่าจะเอาจริงเอาจังแค่ไหน ซึ่งหากจะยืนหนึ่ง รักษาแชมป์ไว้ได้จริงๆ คงจะต้องอาศัยทีมงานเก่าเข้าร่วมยิ่งกว่า “ปั้นก้อนข้าวเหนียวใส่กาวตราช้าง” โดยมี “นายกจ๋า” กัญญาภัค ศิลปรายะ อดีตนายก อบต.โพธิไพศาล ที่เคยลงชิงชัยสนาม อบจ.มาแล้ว เจ้าของคะแนนเสียงกว่า 1 แสนมาผนึกพลังภายในร่วมกัน หากเสียงไม่แตก หรือคะแนนนิยมเดิมยังเหลือตุนไว้อยู่ ก็ยังสงสัยว่าจะสามารถรวบรวมคะแนนเก่ามาไว้ได้แค่ไหน ก็อยู่ที่การบริหารจัดการช่วงหาเสียงเลือกตั้ง จึงยังคงไว้ลาย อาศัยลูกขยันไปหมดทุกงาน ไม่ว่า งานศพ งานบวช งานแต่ง งานประเพณี โดยเฉพาะการออกเยี่ยม รพ.สต.ทุกแห่งในจังหวัด ที่เคยไปเปิดโรงเรียน อสม.ไว้ จึงมัดเหนี่ยวใจกลุ่ม อสม.ไว้ไม่น้อย แต่ก็อยู่ที่กระสุนดินดำว่าจะมากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้ เป็นการวิเคราะห์ในช่วงบรรยากาศการหาเสียง ที่กำลังเข้าสู่โหมดเข้มข้นเท่านั้น ส่วนวันข้างหน้า อีกไม่กี่เมตรจะเข้าโค้งสุดท้าย ใครจะเก็บแต้มหรือทำคะแนนได้ดีกว่า ยังมองค่อนข้างเลือนราง อย่างไรก็ตามคาดว่า สนามเลือกตั้งครั้งนี้ ภาพที่จะเกิดขึ้นคงไม่ต่างกับการช่วงชิงไหวพริบ ระหว่างตาอิน ตานา ตาอยู่ ว่าใครจะได้เป็นเจ้าของชิ้นปลามันอันโอชะ

โดยนฤมลกับอนุรักษ์ เปรียบเสมือน “ตาอิน” กับ “ตานา” จะต้องไม่ย่ามใจ หรือมัวแต่อ้างสิทธิ หรือพาดพิงกันว่าใคร “แดงแท้แดงเทียม” จนกลายเป็นการ “ตัดคะแนนกันเอง” หรือเอาแต่เพ่งเล็ง จ้องดูจังหวะและทีเผลอกัน จนลืมชำเลืองดูเชิง ดร.ชูพงศ์ ที่อาจจะสวมบท “ตาอยู่” หยิบชิ้นปลามันไปแบบ “ส้มหล่น” ก็อาจจะเป็นไปได้ ซึ่งคู่แข่งทั้ง 2 คนจะต้องประมาทไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง เพราะมีดีกรีเป็นอดีตนายก อบจ.สกลนคร หรือเจ้าของตำแหน่งเดิมเสียด้วย

ทั้งนี้ สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามคือ ตัวและหัวใจสมาชิกสภา อบจ.ที่มีอยู่เดิมทุกเขตนั้น ท่าทีเป็นยังไง ยังแน่นเหนียวกับ ดร.ชูพงศ์ หรือแปรพักตร์ไปค่ายไหนยังไงแล้ว ซึ่งหากใครสามารถมัดใจ “ส.อบจ.” ที่เปรียบเสมือนเป็นขุมกำลังระดับตำบลและอำเภอไว้ได้ทุกเขต คือข้อได้เปรียบของการเลือกตั้งนายก อบจ.ครั้งนี้ว่า ใครคือเดอะวินเนอร์

มองภาพรวม ศึกเลือกตั้งครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งอาจจะค่อนข้างหนักใจ ในการจะตัดสินใจกาคะแนนให้ใคร ไปไหนจึงได้ยินแค่คำว่า “รักพี่ เสียดายน้อง” เพราะตัวเลือก “นฤมล เพื่อไทย” ก็ถูกใจ ใส่เต็มที่ “อนุรักษ์ นปช.” ก็เข้าท่า มาแรง ขณะที่ “ดร.ชูพงศ์” แชมป์เก่าก็เข้าที เชิงดีหมดทุกคน ณ วันนี้ สนามเลือกตั้งนายก อบจ.กลนนคร จึงฟันธงยากว่าหวยจะออกตัวไหน เพราะชื่อชั้นเชิงดีทุกคน ชกกันครบยกจนถึงคณะกรรมการขานคะแนนสุดท้ายเป็นใครได้รับการชูมือ ก็คงต้องขึ้นกับเสียงสวรรค์หรือกระสุนดินดำ ว่าอย่างไหนจะทำแต้มได้ดีกว่ากัน วันที่ 1 ก.พ. 68 นี้ รู้ผลแน่นอน