สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ว่าพวกเธอเป็นหนึ่งในผู้หญิงต่างชาติทั้งหมด 24 คน ซึ่งถูกตำรวจกัมพูชาควบคุมตัว เมื่อเดือน ก.ย. และศาลพิพากษาให้รับโทษจำคุก 4 ปี เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ที่ผ่านมา จากข้อหาพยายามค้ามนุษย์ข้ามพรมแดน
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หญิงชาวฟิลิปปินส์ทั้ง 13 คน และทารกอีก 3 คน เดินทางกลับถึงกรุงมะนิลา และถูกนำตัวไปยังศูนย์พักพิงสำหรับเหยื่อการค้ามนุษย์ของรัฐ ขณะที่หญิงอีก 10 คนยังคงตั้งครรภ์อยู่ ตามการเปิดเผยของ นางไอรีน ดุมเลา ผู้ช่วยเลขาธิการกรมสวัสดิการสังคม
Iginiit ng DFA na ginagawa nila ang lahat para humingi ng pardon mula sa hari ng Cambodia para mapauwi ang 13 Pinay na nakakulong sa naturang bansa na sangkot sa surrogacy scheme.
— TV Patrol (@TVPatrol) December 27, 2024
BASAHIN: https://t.co/5xb2JfsTCE pic.twitter.com/okrDlZgIkl
ด้านกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ระบุในแถลงการณ์ว่า “หญิงทั้ง 13 คน เดินทางออกจากกรุงพนมเปญ และกลับถึงกรุงมะนิลาอย่างปลอดภัย หลังพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี พระราชทานอภัยโทษให้แก่พวกเธอ”
คำตัดสินของศาลกัมพูชาระบุว่า มีหลักฐานที่บ่งชี้ให้เห็นว่า ทั้ง 13 คนมีเจตนาในการตั้งครรภ์เพื่อขายลูกให้กับบุคคลที่สาม ซึ่งถือเป็นการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ตาม ศาลไม่ได้ให้รายละเอียดว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับเด็กทารกเหล่านี้
ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์เตือนในแถลงการณ์ด้วยว่า “กัมพูชาห้ามการอุ้มบุญ และการละเมิดใด ๆ ก็ตามจะมีโทษตามกฎหมาย”
อย่างไรก็ดี กระทรวงสวัสดิการสังคมของฟิลิปปินส์ให้ความเห็นว่า เนื่องจากฟิลิปปินส์ไม่มีทั้งกฎหมายห้ามเกี่ยวกับการอุ้มบุญ จึงทำให้เกิด “ช่องว่างสีเทา” ในเรื่องนี้.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES