เมื่อวันที่ 3 ม.ค. น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. ร่วมประชุมวางแผนการดำเนินงานการป้องกันและแก้ไขปัญหาสุขภาพจิตและจิตเวชเขตเมือง ปีงบ 68 เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชอย่างมีคุณภาพและผู้ปฏิบัติงานสามารถปฏิบัติงานตามมาตรฐานเดียวกัน โดยมี นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต และบุคลากรทางการแพทย์ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ ณ อาคารเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร สถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน

รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า การทำงานกับผู้ป่วยด้านจิตเวช ต้องเร็ว ฝึกการสังเกต ทั้งการเก็บข้อมูลจากสภาพแวดล้อมรอบตัวของผู้ป่วย ทีมงานที่จะต้องเข้าถึงผู้ป่วยโดยเร็วเมื่อได้รับแจ้ง เพื่อป้องกันอันตรายทั้งต่อตัวผู้ป่วยเองและผู้อื่น แต่ท้ายที่สุดแล้ว การป้องกันสำคัญที่สุดคือการเปิดให้บริการตรวจสุขภาพทางจิตเชิงรุก เพราะทำให้ทราบข้อมูลเบื้องต้นของผู้ที่มารับบริการก่อนป่วย ซึ่งในปัจจุบันสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ยิ่งทำให้อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย หรือคนเครียดจนใกล้ป่วยสูงขึ้น และกลุ่มที่มีปัญหามากที่สุดคือวัยรุ่นและผู้สูงอายุ ที่จะต้องให้ความสำคัญในการดูแลที่ถูกต้องจากครอบครัวและคนใกล้ชิด

นอกจากนี้ ในที่ประชุมยังได้กล่าวถึงการดำเนินการร่วมกันในระดับปฐมภูมิและระบบสุขภาพจิตโรงเรียน School health HERO ในการเฝ้าระวังปัญหาพฤติกรรมด้านอารมณ์ และปัญหาการฆ่าตัวตายในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ โดยรองผู้ว่าฯ กทม. ย้ำว่าทุกหน่วยงานต้องรวดเร็วในการถึงจุดเกิดเหตุให้ทันท่วงที ทาง กทม. เอง ก็ต้องฝึกเจ้าหน้าที่ในการเผชิญเหตุโดยละมุนละม่อม และไม่ใช้อาวุธ แต่อย่างไรก็ตาม หัวใจสำคัญคือการป้องกันไม่ให้เกิดผู้ป่วยที่คิดฆ่าตัวตายและสิ่งที่ดีที่สุดคือการตรวจสุขภาพเชิงรุก

สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดที่มีพฤติกรรมรุนแรง อย่างมีคุณภาพ โดยผู้ปฏิบัติงานสามารถปฏิบัติงานตามมาตรฐานเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นการให้ประชาชนและกลุ่มเสี่ยงได้รับการคัดกรองและส่งต่อเพื่อเข้ารับการวินิจฉัย เฝ้าระวัง และเข้าสู่กระบวนการรักษาที่เหมาะสม ตลอดจนการเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยจิตเวชและยาเสพติดและครอบครัว ได้รับการดูแลต่อเนื่องจนสามารถอยู่ในชุมชนได้ ไม่กลับมาป่วยซ้ำ กำเริบซ้ำ หรือไม่ก่อความรุนแรงซ้ำทั้งต่อตนเองและผู้อื่น