สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ว่า นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด แถลงลาออกจากการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยม ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลชุดปัจจุบันของแคนาดา การเป็นนายกรัฐมนตรีแคนาดา และการจะไม่ลงชิงชัยตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยมคนใหม่
ทั้งนี้ ผู้นำแคนาดาวัย 53 ปี ซึ่งอยู่ในตำแหน่งมานานต่อเนื่อง 9 ปี ให้เหตุผลเกี่ยวกับ “การต่อสู้และความขัดแย้งอย่างหนัก” ภายในพรรคเสรีนิยม ที่ทำให้เขา “ไม่อาจเป็นตัวเลือกดีที่สุด” ของทุกฝ่ายอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม ทรูโดยืนยันว่า จะยังคงปฏิบัติหน้าที่รักษาการในทุกตำแหน่ง จนกว่าพรรคเสรีนิยมจะสรรหาหัวหน้าพรรคคนใหม่ได้ หมายความว่า ทรูโดจะยังคงอยู่ในทำเนียบผู้นำแคนาดา เมื่อนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันที่ 20 ม.ค. นี้ และมีความเป็นไปได้ ที่แคนาดาจะต้องเผชิญกับกำแพงภาษีจากรัฐบาลวอชิงตันชุดใหม่ ในอัตรา 25%
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของทรูโดเกิดขึ้น ก่อนคณะกรรมการบริหารพรรคเสรีนิยมเตรียมประชุมกัน ในวันที่ 8 ม.ค. ส่วนสภาสามัญแคนาดาเลื่อนกำหนดการเปิดประชุมออกไปเป็นวันที่ 24 มี.ค. จากเดิมคือ 27 ม.ค. เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคเสรีนิยมได้เลือกผู้นำคนใหม่
แม้ทรูโดมาจากหนึ่งในตระกูลการเมืองเก่าแก่ที่สุดของแคนาดา และเป็นบุตรของนายปิแอร์ ทรูโด อดีตนายกรัฐมนตรี อีกทั้งทรูโดได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงแรก โดยหลายฝ่ายยกให้เป็นดาวเด่น หรือดาวรุ่งทางการเมืองของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ความนิยมของเจ้าตัวถดถอยและตกต่ำลงอย่างมากในระยะหลัง จากหลายประเด็น รวมถึงค่าครองชีพ ปัญหาผู้อพยพ และความพยายามร้างสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ กับการเมือง สังคม และสิ่งแวดล้อม ไม่ได้ผลมากนักในระยะหลัง
สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่งผลให้เกิดความขัดแย้งอย่างหนักภายในพรรค และนางคริสเทีย ฟรีนแลนด์ ลาออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ด้านผลสำรวจความคิดเห็นจากศูนย์วิจัยหลายแห่งเป็นไปในทางเดียวกัน ว่าพรรคเสรีนิยมมีคะแนนนิยมตามหลังพรรคอนุรักษนิยมมากถึง 20 จุด แทบดับความหวังของทรูโด ในการเป็นนายกรัฐมนตรี 4 สมัยติดต่อกัน ที่จะเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 100 ปีของประเทศ หากทรูโดสามารถทำได้.
เครดิตภาพ : AFP