เมื่อวันที่ 18 ม.ค. นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 7 ตรวจยึดยาไอซ์กว่า 100 กิโลกรัม (กก.) มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท ที่ขนส่งมากับขบวนรถไฟ ว่า ได้รับแจ้งว่ากรณีดังกล่าวว่า มีการขนส่งมากับขบวนรถพิเศษสินค้าที่ 985 จากสถานีชุมทางบางซื่อ นำส่งปลายทางที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ ซึ่งตามแบบฟอร์มการขนส่งสินค้าทางรถไฟแจ้งว่า เป็นเครื่องแกงและข้าวไรซ์เบอรี่

แต่ต่อมาได้รับแจ้งจากผู้ส่งสินค้าว่า ขอเปลี่ยนให้นำสินค้าลงที่สถานีประจวบคีรีขันธ์แทน เจ้าหน้าที่จึงนำลงที่สถานีประจวบคีรีขันธ์ แต่เนื่องจากเห็นว่ามีความผิดปกติ อีกทั้งหน้ากล่องพัสดุก็ไม่ได้ระบุชื่อผู้รับ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ จนกระทั่งพบว่าเป็นยาไอซ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ทราบว่ามีการนำตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำเพิ่มเติม พร้อมขยายผลเพื่อหาตัวผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายวีริศ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทำการตรวจสอบการขนส่งสินค้าบนขบวนรถไฟอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด และเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสินค้าบนขบวนรถไฟทุกขบวน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำขึ้นอีก และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการทุกคน อย่างไรก็ตาม ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ รฟท. ที่ไม่เพิกเฉย และรีบประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบทันทีที่พบว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้น

นายวีริศ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังกำชับให้เจ้าหน้าที่ รฟท. ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ในการสืบหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี และได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อบูรณาการร่วมกันในการป้องกันการกระทำผิดกฎหมายบนขบวนรถไฟให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพด้วย.