เมื่อวันที่ 18 ม.ค.นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า วันที่ 20 ม.ค. กระทรวงดีอีได้เชิญผู้ประกอบการและตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือชั้นนำต่างๆ อาทิ ซัมซุง ไอโฟน เข้าร่วมประชุม เพื่อทำความเข้าใจและเน้นย้ำการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างเคร่งครัด เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนในหลักเกณฑ์การติดตั้งแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ กระทรวงดีอี จึงจำเป็นต้องนำ พ.ร.บ.ดังกล่าว มาใช้กำกับดูแลเป็นการชั่วคราว เพื่อปกป้องสิทธิและความเป็นส่วนตัวของประชาชน
นอกจากนี้ยังเตรียมประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สํานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงการคลัง เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์การติดตั้งแอปพลิเคชันล่วงหน้าจากโรงงานในโทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่ว่าจะลงอะไรก็ได้ตามใจชอบ โดยจะเร่งหารือ เพื่อหามาตรการที่ชัดเจนเร็วที่สุด
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า สำหรับในกรณี ออปโป้(OPPO) และ เรียลมี (Realme) นั้นเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมาทาง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) กำหนดให้ ออปโป้และ เรียลมี ชี้แจง 5 ประเด็นสำคัญ เช่น การแต่งตั้งตัวแทน การติดตั้งแอปฯ การจัดการข้อมูลที่ไม่ยินยอม และการตรวจสอบแหล่งทุน เบื้องต้นยังต้องรอรายงานเพิ่มเติมจากบริษัทเกี่ยวกับจำนวนเครื่อง และผู้เสียหายซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
นาย วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี กล่าวว่า การจัดตั้งหน่วยงานเพื่อดูแลด้านซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ อาจใช้เวลานานกว่าจะเริ่มงานได้ เบื้องต้นจึงพิจารณาใช้หน่วยงานที่มีอยู่ และมีอำนาจใกล้เคียงแทน เช่น สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือเอ็ตด้า ที่มีอำนาจกำกับดูแลแพลตฟอร์มดิจิทัล ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเหมาะสมเพิ่มเติม
ด้าน นายชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการเอ็ตด้า กล่าวว่า แพลตฟอร์มดิจิทัลที่ เอ็ตด้า กำกับดูแล ตาม พ.ร.ฎ.การประกอบธุรกิจบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ต้องแจ้งให้ทราบ พ.ศ.2565 ครอบคลุมถึงระบบปฏิบัติการ Google Play และ App Store ซึ่งเป็นช่องทางหลักที่เชื่อมโยงผู้ใช้งานกับการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ต่างๆ โดยระบบปฏิบัติการในโทรศัพท์มือถือ ออปโป้ ถือเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องมีการควบคุมตามเกณฑ์ เพื่อให้มั่นใจว่า ซอฟต์แวร์ที่ผู้ใช้งานเข้าถึงมีความปลอดภัยและไม่ละเมิดกฎหมาย
” จำเป็นต้องหารือกับ ออปโป้ เพื่อสร้างความเข้าใจและกำหนดแนวทางร่วมกันในการดูแลแพลตฟอร์ม ผู้ให้บริการต้องปฏิบัติตามเกณฑ์พื้นฐานในการตรวจสอบซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะกรณีที่มีการละเมิด ไม่ดำเนินการตามข้อกำหนด อาจต้องเผชิญกับมาตรการทางกฎหมาย ดังนั้น วันที่ 20 ม.ค.นี้ เอ็ตด้าจะเข้าร่วมประชุม เพื่อเสนอแนวทางดำเนินงานและรับฟังความคิดเห็น นำไปพัฒนามาตรฐานแพลตฟอร์มให้ปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน” นายชัยชนะ กล่าว