หลาย ๆ คนเชื่อว่าการกินข้าวเยอะ ๆ ไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย เพราะจะทำให้อ้วน พออ้วนแล้วก็จะทำให้เป็นโรคต่าง ๆ ได้ โดยเฉพาะโรคเบาหวาน
เพราะฉะนั้นแล้ว เราควรทานข้าววันละกี่จานถึงจะเหมาะสม?
คุณหมอเหงียน จ่อง ฮุง แห่งสถาบันโภชนาการแห่งชาติ เปิดเผยว่า มนุษย์เราต้องการคาร์โบไฮเดรต (ข้าว) เนื่องจากระบบประสาทส่วนกลางของมนุษย์ถูกบังคับให้ใช้กลูโคสเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายและสมองทำงานแล้ว ข้าวยังช่วยควบคุมความดันโลหิตอีกด้วย ดังนั้นผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงจึงได้รับคำแนะนำว่า ไม่ควรงดมื้ออาหาร
ข้าวยังอุดมไปด้วยวิตามินดี ไนอาซิน แคลเซียม ไฟเบอร์ ไรโบฟลาวิน เหล็ก และไทอามีน สารอาหารทั้งหมดนี้จะเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยปรับสมดุลการทำงานโดยรวมของร่างกาย เพราะฉะนั้นแล้ว ในแต่ละมื้ออาหารของเรา จึงควรมีคาร์โบไฮเดรตอย่างน้อย 50 กรัมเพื่อบำรุงร่างกาย
ในสมัยก่อนคนเรากินข้าวมื้อละ 3-4 ชาม แต่จำนวนคนเป็นเบาหวานน้อยกว่าปัจจุบัน เพราะวิถีชีวิตสมัยนั้น คนเราต้องใช้แรงกายมากกว่าสมัยนี้ที่อะไร ๆ ก็สะดวกสบายขึ้น คนในยุคปัจจุบันจึงกินข้าวน้อยลง กินโปรตีน ไขมัน น้ำตาลเชิงเดี่ยวมากขึ้น และไม่ค่อยออกกำลังกาย ส่งผลให้มีโรคภัยไข้เจ็บเพิ่มมากขึ้น
คนที่คิดจะลดน้ำหนัก มักจะเลือกลดปริมาณข้าวลงก่อน หรือบางคนก็ไม่กินข้าวเลย แล้วไปเพิ่มปริมาณผลไม้แทน แต่จริง ๆ แล้วการกินผลไม้มากเกินไป ไม่ดีต่อร่างกาย เพราะจะไปเพิ่มปริมาณน้ำตาลเชิงเดี่ยวที่เข้าสู่ร่างกาย
เราควรกินอาหารให้สมดุล ด้วยการรับประทานอาหารที่สร้างพลังงาน 3 ชนิด ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน โดยต้องกินคาร์โบไฮเดรต 50-60% โปรตีนจากพืชและเนื้อสัตว์ 13-20% ส่วนที่เหลือคือไขมันจากสัตว์และพืช นอกจากนี้ยังมีวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ อีก
ที่โรงพยาบาล แพทย์ไม่แนะนำให้คนไข้งดกินข้าว แต่ต้องบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม สำหรับปริมาณข้าวที่ควรรับประทานต่อวันสำหรับคนทั่วไป คือ 3-4 จาน.
ที่มาและภาพ : soha