สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ว่า ติ๊กต็อกออกแถลงการณ์ ว่ากำลังฟื้นฟูระบบในสหรัฐ หลังระงับให้บริการ เมื่อวันอาทิตย์ พร้อมทั้งขอบคุณนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดี ซึ่งแสดงความชัดเจน “บนหลักการที่จำเป็น” และการให้ความเชื่อมั่น ว่าผู้ให้บริการ “จะไม่เผชิญกับบทลงโทษ” จากการมอบบริการติ๊กต็อก ให้แก่ชาวอเมริกันมากกว่า 170 ล้านคน
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของติ๊กต็อกเกิดขึ้น หลังทรัมป์ยืนยัน ระหว่างการปราศรัยครั้งใหญ่ที่กรุงวอชิงตัน ว่าหนึ่งในคำสั่งฝ่ายบริหาร ที่จะมีการลงนาม หลังเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง คือการชะลอการแบนแอปพลิเคชันในสหรัฐออกไปก่อน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์กล่าวว่า มีแนวคิดเกี่ยวกับ “ความเป็นเจ้าของแบบร่วมทุน” ระหว่างเจ้าของปัจจุบันกับเจ้าของใหม่ของติ๊กต็อก ซึ่งฝ่ายสหรัฐควรถือครองกรรมสิทธิ์ 50% ในกิจการร่วมค้านั้น ซึ่งติ๊กต็อกปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องนี้
President-elect Trump: "As of today, TikTok is back!" pic.twitter.com/KNjurUSvfM
— CSPAN (@cspan) January 19, 2025
อนึ่ง สภาคองเกรสของสหรัฐ มีมติเมื่อเดือน เม.ย. 2567 ผ่านกฎหมาย “ปกป้องชาวอเมริกันจากศัตรูต่างชาติซึ่งควบคุมแอปพลิเคชัน” ที่เรียกกันว่า “กฎหมายแบนติ๊กต็อก” โดยสหรัฐอ้างความเชื่อมโยงทางความมั่นคง ระหว่างติ๊กต็อกกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน และกดดันให้บริษัทไบต์แดนซ์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปักกิ่งของจีน และเป็นเจ้าของติ๊กต็อก ต้องขายกิจการในสหรัฐ ภายในวันที่ 19 ม.ค. ที่ผ่านมา
แม้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามรับรองกฎหมายไปแล้ว แต่ทำเนียบขาวกล่าวว่า ให้การตัดสินในเรื่องนี้ ขึ้นอยู่กับทรัมป์เมื่อรับตำแหน่ง นอกจากนี้ มีความเป็นไปได้สูงมาก ว่าการที่ประธานาธิบดีลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร “ที่มีเนื้อหาขัดต่อกฎหมาย” สุ่มเสี่ยงเผชิญกับการฟ้องร้องในขั้นศาลเช่นกัน.
เครดิตภาพ : AFP