เป็นประเด็นร้อนแรงในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง หลังนักร้องดัง “แสตมป์ อภิวัชร์” ออกมาเล่าเหตุการณ์สุดตกใจว่าตนเองและภรรยาสาว ถูกคุกคามจากคน 2 คน และได้หายหน้าไปจัดการเรื่องฟ้องร้องคนดังกล่าว ต่อมาแฟนหนุ่มของคู่กรณีได้ออกมายืนยันและโต้เรื่องราวดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง พร้อมทั้งอธิบายเรื่องราวผ่านโซเชียลของตนอย่างละเอียด ต่อมาทางด้านเพจ “โตแล้วจะไปญี่ปุ่นกี่ครั้งก็ได้” ได้อ้างตัวเป็นเพื่อนของ แสตมป์ และเป็นหนึ่งในพยานให้กับภรรยาของแสตมป์ ในคดีชู้สาว ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในกรณีดังกล่าว พร้อมข้อความแชตไลน์ ที่มีการพูดคุยกับแสตมป์

นอกจากนี้ช่วงเช้าของวันที่ 20 ม.ค. “แสตมป์ อภิวัชร์” ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Stamp ซึ่งเป็นเนื้อหาขอโทษทุกฝ่ายที่ตนดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องราวดังกล่าว พร้อมกับขอโทษภรรยาและขอบคุณที่ให้โอกาสอีกครั้ง อีกทั้งตนยังออกมารับว่าเคยมีความสัมพันธ์กับคู่กรณีในอดีตจริง และได้ละเว้นประเด็นนี้ไว้ในเรื่องเล่า จนคนเข้าใจผิด เอาใจช่วยตนไปในเรื่องที่ผมบิดเบือนว่าคู่กรณีเป็นเพียงแฟนคลับที่มาติดตาม แต่ในเรื่องของการคุกคามและข่มขู่ด้วยคดีทางการเมือง ตนขอยืนยันว่าเคยเกิดขึ้นจริง หากแต่ปัจจุบันได้หยุดลงไปแล้ว ซึ่งตนก็ได้เล่าเรื่องเหล่านี้เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ มาคุ้มครองดูแล ตามที่ข่าวได้นำเสนอไปแล้วนั้น
‘แสตมป์’ ขอโทษเล่าไม่หมด! ‘นอกใจภรรยาเอง’ ทำเดือดร้อนวงกว้าง


หลังจากที่โพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไป จึงทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันหลากหลายมุมมอง ซึ่งชาวเน็ตได้แห่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นร้อนดังกล่าวกันมากมาย อาทิ ดีใจที่พี่ออกมาขอโทษนะครับ ยังฟังเพลงเหมือนเดิมครับ ใช้เวลาแล้วเริ่มต้นใหม่กันครับ ภรรยาพี่คือ ที่สุดของเรื่องนี้แล้วครับ, เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องส่วนตัวของแสตมป์ ที่เกี่ยวข้องกับหลายคน อันนี้ดิฉันไม่อยากพูดถึงมากนัก แต่เรื่องการใช้ ม.112 มาข่มขู่ ดิฉันต้องพูด เพราะมันเป็นเรื่องที่ดิฉันพูดมาเป็นสิบปี ถึงการใช้มาตรานี้เป็นเครื่องมือบ้าๆ ถึงเวลาที่เราจะพูดเรื่องนี้อย่างซีเรียสหรือยัง, สรุปว่าทุกอย่างจบไปแล้ว แล้วเฮียเอาไปพูดบนเวทีเพื่ออะไรคะ ถ้าพูดก็ควรพูดให้หมดตั้งแต่แรก คนที่เขาหวังดีจริงๆ เขาป็นห่วงค่ะ เฮียหลอกใช้ความรู้สึกเป็นห่วงจากคนอื่นมากมายเกินไปค่ะ หรือถ้าจะพูดไม่หมดก็ควรจะเงียบไปเลย ไม่ควรมารับบทเหยื่อแต่แรกนะคะ, คุณแสตมป์ ย่อมเข้าใจดีที่สุดหากมีใครมาว่า คนที่คุณรักว่าสติไม่ดี ว่าบ้า ในสถานการณ์นี้คุณ จ. เธอรับเต็มครับ เธอโดนขุดคุ้ย โดนตีตรา ว่าเป็นพวกโรคจิตว่าเป็นซาแซง จากชาวเน็ตค่อนประเทศ ซ้ำยังมีพวกที่อ่อนไหวทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือโจมตีครอบครัวเธออีก, ไม่ว่าจะเป็นพี่แสตมป์หรือภรรยาเป็นคนพิมพ์ หรือเป็นทนายที่แนะนำให้พิมพ์แบบนี้ ก็ไม่สำคัญหรอก เพราะเขาก็ออกมาขอโทษแล้ว ออกมาสารภาพแล้ว ไม่ว่าการสารภาพครั้งนี้จะเกิดจากการที่ถูกเพื่อนแฉหรือใครๆ พูดอีกด้านหนึ่งก็ตาม สุดท้ายคนเสพข่าวอย่างเรา ก็ต้องแยกย้ายไปทำมาหากินกันอยู่ดี ไม่ต้องไปอยากรู้หรอกว่าใครพิมพ์ ไม่ต้องไปอยากรู้ว่าเขาโกหกอีกไหม พอถึงเขาโกหกหรือเขาพูดเรื่องจริง มันก็ไม่ได้มีผลกระทบกับเราทางตรงอยู่แล้ว สงสารได้ โมโหได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขตของตัวเอง ไม่ใช่โมโหเขาแล้วไปด่าเขา ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เป็นต้น



ขอขอบคุณภาพประกอบจาก stampapiwat