นายอิทธิ ศิริลัทยากร รมช.ระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลัง  ร่วมเป็นสักขีพยานพิธีส่งมอบ – รับมอบความรับผิดชอบการบริหารท่าอากาศยานตาก จากกรมท่าอากาศยานให้กับกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ปัจจุบันปัญหาหมอกควัน ไฟป่า และฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm2.5 ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ปัญหาด้านมลพิษทางอากาศของภาคเหนือรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากส่งผลกระทบต่อประชาชนและเป็นวงกว้าง อีกทั้งการปฏิบัติการฝนหลวง ยังสามารถบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้ รวมไปถึงภารกิจการปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ภาคเหนือทำให้ เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีหนังสือถึงกรมท่าอากาศยาน เพื่อแจ้งความประสงค์ขอเป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ท่าอากาศยานตาก เพื่อการบินปฏิบัติการฝนหลวง และขอรับโอนท่าอากาศยานตาก เพื่อจะสามารถพัฒนาปรับปรุงท่าอากาศยานตาก ให้เป็นศูนย์หลักในการปฏิบัติการบินดัดแปรสภาพอากาศ การปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาภัยแล้งการปฏิบัติการดับไฟป่า และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก Pm2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและคล่องตัวมากยิ่งขึ้นตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี

กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้มีการตั้งศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จังหวัดตาก เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าวอยู่แล้ว และเล็งเห็นว่าปัจจุบันท่าอากาศยานตากไม่มีเที่ยวบินพาณิชย์ทำการบินแบบประจำมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2537 จึงเป็นการลดภาระด้านงบประมาณที่รัฐบาลต้องจัดสรรให้กรมท่าอากาศยาน รวมไปถึงจะเป็นการให้ทางราชการสามารถใช้ประโยชน์พื้นที่ท่าอากาศยานตากได้อย่างเต็มที่และเป็นการกระจายงบประมาณที่รัฐบาลสนับสนุนให้กรมท่าอากาศยานที่มีการให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์ เป็นการใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุดและไม่ส่งผลกระทบต่อประชาชน