สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ว่าโรคมาลาเรียคร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 600,000 รายต่อปี ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทวีปแอฟริกา และผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็ก ตามข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ)

ในช่วงนำร่องตั้งแต่ปี 2562-2566 มีเด็กมากกว่า 2 ล้านคน ในกานา เคนยา และมาลาวีได้รับการฉีดวัคซีนอาร์ทีเอส,เอส (RTS,S) ส่งผลให้อัตราการป่วยรุนแรงจากโรคมาลาเรีย และการเข้าโรงพยาบาลลดลงอย่างมาก รวมถึงลดอัตราการเสียชีวิตลดลง 13%

กาวีแนะนำให้มีการฉีดอาร์ทีเอส,เอส ร่วมกับอาร์21/เมทริกซ์-เอ็ม (R21/Matrix-M) เพื่อเสริมประสิทธิภาพ ให้กับการป้องกันโรคมาลาเรีย

ทั้งนี้ มีการฉีดวัคซีนป้องกันมาลาเรียอย่างต่อเนื่อง ใน 3 ประเทศดังกล่าว และอีก 14 ประเทศ รวมถึงแคเมอรูน ซึ่งเริ่มเมื่อเดือน ม.ค. 2567

จนถึงขณะนี้ รัฐบาลแคเมอรูนฉีดวัคซีนไปแล้วมากกว่า 9.8 ล้านโด๊ส และคาดว่าเด็ก 5 ล้านคน ได้รับการปกป้องในระดับหนึ่ง และมีเป้าหมายฉีดวัคซีน 4 โด๊สให้กับเด็กแต่ละคน

ก่อนเริ่มโครงการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ แคเมอรูนมีผู้เสียชีวิตจากโรคมาลาเรียมากกว่า 13,000 รายต่อปี และคิดเป็นเกือบ 30% ของผู้ป่วยทั้งหมดในโรงพยาบาล แต่หลังจากนั้น แคเมอรูนมีจำนวนผู้ป่วย ผู้เสียชีวิต และผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลลดลง

กาวีมีแผนขยายพื้นที่การแจกจ่ายวัคซีนโรคมาลาเรียไปยังอีก 8 ประเทศของแอฟริกาในปีนี้ คาดว่าจะสามารถปกป้องเด็กได้เพิ่มอีก 13 ล้านคน และตั้งแต่ปี 2569-2573 มีเป้าหมายที่จะช่วยให้ประเทศต่าง ๆ ปกป้องเด็กเพิ่มอีก 50 ล้านคน ด้วยวัคซีนป้องกันโรคมาลาเรียคนละ 4 โด๊ส.

เครดิตภาพ : AFP