เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ที่กองบิน 41 จ.เชียงใหม่ พล.อ.อ.พันธ์ภักดี  พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการเลือกจัดซื้อเครื่องบินขับไล่กริพเพนของสวีเดนทดแทน F-16 ที่จะปลดประจำการ ว่า อยู่ในช่วงของการดูในรายละเอียดที่เพิ่มเติมมา ซึ่งโครงการจะแบ่งเป็นแพ็กเกจหลัก เรื่องขีดความสามารถสมรรถนะส่วนนี้ไม่ได้กังวลอะไร และการชดเชยที่สัมพันธ์กับมูลค่าโครงการโดยตรง (Direct Offset) คือ การชดเชยที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับสินค้าในสัญญานั้นๆ การนำเข้าอุปกรณ์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี การให้ลิขสิทธิ์ทางปัญญาเกี่ยวกับระบบ Tactical Data Links (TDL) เป็นลิงก์การสื่อสารแบบไร้สายที่ปลอดภัย เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในสนามรบ (ทางบก ทางอากาศ และทางทะเล) ที่จะสามารถต่อยอดไปยังหน่วยงานอื่นได้ รวมทั้งการชดเชยโดยอ้อม (Indirect Offset) ซึ่งยังเป็นนามธรรมค่อนข้างมากจากมูลค่าที่สวีเดนเสนอมา โดยมองว่า การชดเชยตอบแทนที่ไทยจะได้รับทั้งเรื่องสินค้า และการท่องเที่ยว ต้องแปลงเป็นมูลค่าให้ได้และต้องเป็นรูปธรรมมากกว่านี้ 

ผบ.ทอ. กล่าวย้ำว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เข้าใจรูปแบบที่กองทัพอากาศใช้ตัดสินใจจัดซื้อเครื่องบินฝูงใหม่ โดยการคำนึงถึงผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น นับตั้งแต่การคัดเลือกจาก 22 แบบ เหลือ 6 แบบ จาก 6 แบบเหลือ 2 แบบคือ F-16 กับกริพเพน ซึ่งมีใช้งานอยู่ในกองทัพอากาศ และมีขีดความสามารถในการซ่อมบำรุง กำลังพลมีความคุ้นเคย ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้มาก จนมาเหลือ 1 แบบคือกริพเพน ซึ่งเรามองว่าเหมาะสมที่สุด โดยให้น้ำหนักเรื่องการถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเพิ่มขีดความสามารถเป็นหลัก รวมทั้งเรื่องชดเชยการนำเข้า ซึ่งตามที่สวีเดนเสนอมานั้นมีมูลค่ากว่าเครื่องบินที่ไทยจะจัดซื้อ ถือว่าเป็นสิ่งที่จะเกิดประโยชน์กับประเทศชาติ แต่ก็จำเป็นต้องรอบคอบและละเอียดรวมทั้งมีความชัดเจนในเรื่องการประกอบสัญญาก่อนที่จะลงนาม

ผบ.ทอ.กล่าวอีกว่า คาดว่าในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2568 จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้อนุมัติแบบ เพราะขณะนี้ต้องจัดทำรายละเอียดให้ชัดเจน ซึ่งมีคณะกรรมการที่พูดคุยกับทางสวีเดนอย่างต่อเนื่องทุกวัน และเสนอความต้องการเพิ่มเติม เพราะยังมีเรื่องเงื่อนไขตอบแทนที่เป็นนามธรรมอยู่จะต้องทำให้เป็นรูปธรรม ซึ่งไทย-สวีเดนถือว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นในทุกระดับอยู่แล้ว.