สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่าการคาดการณ์เชิงบวกเกี่ยวกับอนาคตของเอไอโดยเมตา ส่งผลให้หุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นถึง 5% ในการซื้อขายหลังเวลาทำการ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และทรงตัวอยู่ที่ระดับเพิ่มขึ้น 2% ในเวลาต่อมา
ตลอดปี 2567 เมตามีรายได้สุทธิพุ่งขึ้น 59% เป็น 62,360 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.1 ล้านล้านบาท) ขณะที่กำไรในไตรมาส 4 พุ่งขึ้น 49% เป็น 20,840 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 702,943 ล้านบาท)
ขณะเดียวกัน รายรับอยู่ที่ 164,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.5 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 22% จากปี 2566 ด้วยแรงหนุนจากประสิทธิภาพการโฆษณาที่แข็งแกร่งขึ้น ด้านราคาโฆษณาเพิ่มขึ้น 10% และจำนวนการแสดงผลเพิ่มขึ้น 11% ในทุกแพลตฟอร์ม
นายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเมตา กล่าวว่า ปี 2568 จะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับการกำหนดความสัมพันธ์ของเมตาและรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ ที่ซึ่งมีความภูมิใจในเมตา ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีของอเมริกา และปกป้องค่านิยมและผลประโยชน์ของชาติในต่างประเทศ
นอกจากนั้น เมตายังได้ปรับลดความริเริ่มด้านความหลากหลาย และผ่อนปรนกฎเกณฑ์การควบคุมเนื้อหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบคำพูดที่อาจทำให้ผู้โฆษณารายใหญ่กังวลใจ เนื่องจากพวกเขาไม่อยากให้โฆษณาของตนปรากฏร่วมกับเนื้อหาที่สร้างความแตกแยก อย่างไรก็ดี การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้จากโฆษณา
ส่วนฐานผู้ใช้ของเมตายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยแตะระดับ 3,350 ล้านคนต่อวันในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เมื่อเดือน ธ.ค. 2567 หรือเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ในภายภาคหน้า เมตามีแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ โดยคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายด้านทุน 60,000-65,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2-2.1 ล้านล้านบาท) ในปี 2568 ซึ่งส่วนใหญ่เพื่อสนับสนุนความคิดริเริ่มด้านเอไอ ที่คาดว่า ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะสูงถึง 114,000-119,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.8-4 ล้านล้านบาท).
เครดิตภาพ : AFP
