สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ว่า หลังองค์กรสิ่งแวดล้อมเปิดเผยรายงานฉบับนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียออกมาโต้แย้งว่า “ตัวเลขดังกล่าวบิดเบือนข้อเท็จจริง” ของการตัดไม้ทำลายป่าในประเทศ
รายงานขององค์กร “อาวรีกา นูซันตารา” ระบุว่า พื้นที่ป่าดั้งเดิม และป่าไม้รุ่นสองทั่วอินโดนีเซียหายไปถึง 261,575 เฮกตาร์ หรือราว 2,615 ตารางกิโลเมตร เมื่อปี 2567 ซึ่งสูงกว่าปีก่อนหน้ามากกว่า 4,000 เฮกตาร์ หรือราว 40 ตารางกิโลเมตร และส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ที่รัฐบาลเปิดให้มีการพัฒนา
นายไทเมอร์ มานูรัง ประธานของอาวริกา นูซันตารา ชี้ให้เห็นถึงการตัดไม้ทำลายป่าอย่างถูกกฎหมายที่เพิ่มมากขึ้น พร้อมเรียกร้องให้มีการปกป้องผืนป่าอย่าง “เร่งด่วน” บนเกาะกาลิมันตัน ซึ่งเป็นพื้นที่มีตัวเลขการสูญเสียสูงสุด เนื่องจากมีโครงการก่อสร้างกรุงนูซันตารา ซึ่งเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ และเกาะสุลาเวสี
Deforestation rises for third year running in Indonesia #FMTNews #FMTWorld https://t.co/6AD3MQR2mD
— Free Malaysia Today (@fmtoday) January 31, 2025
ด้านนายอาเด ตรี อาจิกุสุมาห์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงสิ่งแวดล้อมและป่าไม้อินโดนีเซีย กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าว “ไม่สามารถคำนวณการปลูกป่าทดแทนได้” แต่เขายอมรับว่าข้อมูลของรัฐบาลนั้น “ไม่แตกต่าง” จากรายงานของอาวริกา นูซันตารา
อย่างไรก็ดี องค์กรไม่ได้คำนวณการปลูกป่าทดแทนบนพื้นที่กว่า 40,000 เฮกตาร์ หรือราว 400 ตารางกิโลเมตร ขณะที่อาจิกุสุมาห์ โต้แย้งว่า พื้นที่รอบเมืองหลวงแห่งใหม่นั้น “หลุดพ้นจากสถานะป่า” และเป็นพื้นที่ซึ่งถูกกำหนดไว้สำหรับการพัฒนา
นอกจากนั้น รายงานของอาวรีกา นูซันตารา เน้นย้ำถึงการตัดไม้ทำลายป่าบนเกาะย่อยหลายแห่ง ของหมู่เกาะราชาอัมพัต ซึ่งมีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ท่ามกลางอุตสาหกรรมเหมืองนิกเกิลที่กำลังก้าวหน้า และการออกใบอนุญาตขุดนิกเกิลสำหรับเกาะอีกหลายแห่งในอินโดนีเซีย แม้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ตามกฎหมายก็ตาม.
เครดิตภาพ : AFP