สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ว่า รามาโฟซากล่าวว่า “เรากำลังเห็นการเพิ่มขึ้นของลัทธิชาตินิยม ลัทธิคุ้มครองทางการค้า การแสวงหาผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม และการเสื่อมถอยของจุดประสงค์ร่วมกัน” ผู้นำแอฟริกาใต้ย้ำว่า บ้านเมืองจะเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หวั่นไหว และ “เราจะไม่ตกเป็นเหยื่อของการกลั่นแกล้ง”
หลังผู้นำสหรัฐออกมากล่าวหาว่า แอฟริกาใต้ยึดที่ดินทำกินผ่านกฎหมายเวนคืน ซึ่งรามาโฟซาลงนาม เมื่อเดือน ม.ค. ที่ผ่านมา ผู้นำแอฟริกาใต้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และโต้แย้งว่าเป็นข้อมูลเท็จ
President Cyril Ramaphosa has issued a strong response to US President Donald Trump, insisting that South Africa will not be bullied and will defend its national interests and sovereignty. #eNCA #ThePeoplesSona2025 #SONA2025 #DStv403
— eNCA (@eNCA) February 7, 2025
READ: https://t.co/JIHLDQD7nc pic.twitter.com/d2tPTiqaPc
ขณะที่นายอีลอน มัสก์ ที่ปรึษาของทรัมป์ กล่าวว่า รัฐบาลของรามาโฟซา “มีกฎหมายการเป็นเจ้าของที่ดิน ซึ่งเหยียดเชื้อชาติอย่างเปิดเผย”
ด้านนายมาร์โก รูบิโอ รมว.การต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า เขาจะไม่เข้าร่วมการเจรจากลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ “จี20” ที่แอฟริกาใต้จะเป็นเจ้าภาพในเดือนนี้ เนื่องจากมีวาระการประชุม “ต่อต้านอเมริกา”
อย่างไรก็ตาม รามาโฟซายอมรับว่า การตัดสินใจระงับความช่วยเหลือระหว่างประเทศของสหรัฐ ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับแอฟริกาใต้ ซึ่งได้รับเงินทุนสนับสนุนโครงการรักษาโรคเอดส์/เอชไอวี ประมาณ 17%.
เครดิตภาพ : AFP