จากกรณี ชาวบ้านกระสัง ต.กระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 10 คน ส่วนใหญ่เป็นคนชรา เข้าแจ้งความกับ ตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อเอาผิดกับ นางต่าย (นามสมมุติ) อายุ 42 ปี ข้าราชการสาวระดับปฏิบัติการ อบต.กระสัง ใน จ.บุรีรัมย์ ซึ่งได้ลาออกจากงานไปเมื่อวันที่ 20 ต.ค.ที่ผ่านมา แล้วหายตัวไปไร้ร่องรอย หลังก่อเหตุใช้โฉนดที่ดินปลอมมาวางค้ำประกันขอยืมเงินคนชรา และหลอกให้คนชราเอาที่ดินไปกู้เงินมาให้ มีผู้เสียหายรายละตั้งแต่ 100,000-3,000,000 บาท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท ขณะที่ นายบันลือ ศรีลาชัย อายุ 45 ปี สามีของนางต่าย ซึ่งเป็น อดีตรองนายก อบต.กระสัง ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น เนื่องจากได้หย่าร้างกันไปแล้ว นั้น

โร่แจ้งจับขรก.สาวแสบ ตุ๋นคนแก่-เพื่อนร่วมงาน ช่วยกู้เงินสูญกว่า20ล้าน

อดีตสามี ขรก.สาวแสบ ปัดไร้เอี่ยว ปม ตุ๋นคนแก่-เพื่อนร่วมงาน อ้างหย่ากันแล้ว

ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พ.ย. นายสุรพล เพ็งพันธ์ ผอ.กลุ่มงานกฎหมายระเบียบและเรื่องร้องทุกข์ สำนักงานท้องถิ่นจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า กรณีข้าราชการรายดังกล่าว ชิงลาออกจากราชการไปเมื่อวันที่ 20 ต.ค.นั้น การลาออกของข้าราชการโดยปกติ จะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองของท้องถิ่นจังหวัดก่อน ซึ่งจะต้องทำไปตามกระบวนการและผ่านการเห็นชอบ กรณีของนางต่าย ได้รับหนังหนังสือการลาออกแล้ว แต่ยังไม่ได้พิจารณา หากมีการร้องเรียนการกระทำผิด ในห้วงที่ยังไม่ได้พิจารณาเหตุผลของการลาออก จะต้องมีตั้งคณะกรรมการสอบเหมือนข้าราชการทั่วไป ถ้าพบการกระทำผิด คณะกรรมการจะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าผิดวินัยร้ายแรงแค่ไหน หากร้ายแรงจะมีโทษตั้งแต่ปลดออกหรือไล่ออก ถ้าถูกไล่ออก จะไม่ได้รับเงินบำเหน็จบำนาญ ตามระเบียบของทางราชการ