“มีหลักฐานว่าการมีความรักอย่างมีความสุขและสนับสนุนกันและกันนั้นดีต่อสุขภาพหัวใจ” ดร. จอฟ เกลบ์แมน แพทย์โรคหัวใจจากศูนย์นิวยอร์ก-เพรสไบทีเรียนและศูนย์การแพทย์เวียลล์ คอร์เนลล์ กรุงนิวยอร์กล่าว

“มีอยู่ทฤษฎีหนึ่งบอกว่า การมีคู่รักและมีความรักสามารถเพิ่มระดับของออกซิโทซินและลดฮอร์โมนความเครียด เช่น คอร์ติซอล ซึ่งสามารถช่วยปรับความดันโลหิตและสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดโดยรวมให้ดีขึ้นได้” เธอกล่าว

ออกซิโทซินซึ่งรู้จักกันในชื่อ “ฮอร์โมนแห่งความรัก” จะถูกปล่อยออกมาในสมองเมื่อเราได้รับสัมผัสทางกาย เช่น การกอด จูบ มีเพศสัมพันธ์ คลอเคลียกับคนรัก ฮอร์โมนนี้ช่วยส่งเสริมความรู้สึกผูกพันและไว้วางใจ ขณะเดียวกันก็ลดความเครียด ทำให้ดีต่อหัวใจของเรา

ผลการศึกษาวิจัยในปี 2562 ฉบับหนึ่งแสดงให้เห็นว่า ออกซิโทซินสามารถยับยั้งและลดการสะสมของไขมันและคอเลสเตอรอลในหลอดเลือดแดงได้ ซึ่งอาจชะลอการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจได้

ตามการศึกษาวิจัยในปี 2565 ออกซิโทซินยังอาจไปกระตุ้นการสร้างเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจขึ้นมาใหม่ ทำให้สามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อหัวใจหลังจากเหตุการณ์ที่ทำให้เซลล์เสียหาย เช่น หัวใจวาย 

อาจเป็นด้วยเหตุนี้ ดร. เกลบ์แมนจึงกล่าวว่า คนที่แต่งงานแล้วและมีโรคหัวใจมีโอกาสเกิดอาการหัวใจวายหรือเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดน้อยกว่าผู้ป่วยโรคนี้ที่ไม่มีคู่รัก ตามผลการศึกษาวิจัยในปี 2560 ที่พบว่า คนโสดมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจสูงกว่าคนที่แต่งงานแล้วถึง 45%

นักวิจัยเชื่อว่านอกเหนือจากผลดีของการมีเพื่อนร่วมชีวิตแล้ว การมีคู่ครองที่คอยเตือนให้เรากินยาและปฏิบัติตามนิสัยที่ดีต่อสุขภาพก็สามารถอธิบายได้ว่าทำไมการมีความรักจึงส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ

ดร. เกลบ์แมนกล่าวว่า มีข้อมูลจากศูนย์สุขภาพฮาร์วาร์ดเฮลท์ที่พบว่า ผู้ชายที่แต่งงานแล้วโดยรวม มีสุขภาพที่ดีกว่าผู้ชายโสด หย่าร้าง หรือเป็นหม้าย ซึ่งผู้ชายกลุ่มหลังนี้มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจมากกว่าผู้ชายที่แต่งงานแล้วถึง 3 เท่า

ยังมีผลการศึกษาวิจัยอีกชิ้นหนึ่งที่ตีพิมพ์ในปี 2552 พบว่าผู้ชายที่ไม่เคยแต่งงานและผู้หญิงที่แยกกันอยู่หรือหย่าร้าง มีความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจสูงที่สุด

อย่างไรก็ตาม สำหรับคนที่ไม่ได้แต่งงานหรือไม่ได้มีคู่รัก ก็ยังพอมีทางชดเชยได้ 

“ความรักแบบโรแมนติกไม่เพียงแต่ทำให้สุขภาพหัวใจดีขึ้น แต่การมีเครือข่ายทางสังคมที่แข็งแกร่งที่ประกอบด้วยเพื่อนและครอบครัวที่คอยสนับสนุนเรา ก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นกัน” ดร. เกลบ์แมนอธิบาย “แม้แต่การมีสัตว์เลี้ยงก็ช่วยให้สุขภาพหัวใจดีขึ้นได้ เพราะทำให้เรากระตือรือร้นและเข้าสังคมมากขึ้น ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ส่งผลต่อหัวใจในทางบวก”

ที่มา : nypost.com

เครดิตภาพ : StockSnap from Pixabay