สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ว่าองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ออกแถลงการณ์ เมื่อวันพุธ เรื่องการขึ้นทะเบียนเป็นกรณีฉุกเฉิน ให้กับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แบบเชื้อตาย “โควาซิน” พัฒนาและผลิตโดยบริษัทภารัต ไบโอเทค ของอินเดีย ซึ่งมีประสิทธิภาพโดยรวมอยู่ที่ 78% หลังการฉีดครบสองเข็มแล้วอย่างน้อย 14 วัน
The Technical Advisory Group, convened by WHO and made up of regulatory experts from around the world, has determined that the #Covaxin vaccine meets WHO standards for protection against #COVID19, that the benefit of the vaccine far outweighs risks & the vaccine can be used ?.
— World Health Organization (WHO) (@WHO) November 3, 2021
ทั้งนี้ โควาซินเป็นวัคซีนตัวแรกที่พัฒนาและผลิตในอินเดีย เนื่องจากวัคซีน “โควิชิลด์” ซึ่งผลิตโดยสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย (เอสไอไอ) นั้น เป็นการรับผลิตให้กับบริษัทแอสตราเซเนกาของสหราชอาณาจักร ซึ่งพัฒนาวัคซีนร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด
#Covaxin was found to have 78% efficacy against #COVID19 of any severity, 14 or more days after the second dose, and is extremely suitable for low- and middle-income countries due to easy storage requirements.
— World Health Organization (WHO) (@WHO) November 3, 2021
อนึ่ง โควาซินนับเป็นวัคซีนต้านโควิด-19 รายการที่ 8 ซึ่งได้รับการอนุมัติเพื่อใช้งานเป็นกรณีฉุกเฉินจากดับเบิลยูเอชโอ ต่อจาก “แอสตราเซเนกา/ออกซฟอร์ด” “ไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค” “โควิชิลด์” “จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน” “โมเดอร์นา” “ซิโนฟาร์ม” และ “ซิโนแวค”.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES