เมื่อวันที่ 20 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปอส.ตร. (PCT) ร่วมกับ บก.สส.บช.น. ปฏิบัติการ “ทลายรังบอสสแกมเมอร์ฟิวแฟน” นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบ้านพักหมู่บ้านหรู ถนนบางนา-ตราด จ.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จับกุมตัวผู้ต้องหา 5 คน ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยการแสดงตนเป็นคนอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่ และร่วมกันเป็นซ่องโจร, ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก ตลอดจนเลขหมายโทรศัพท์ฯ, เปิดบัญชีม้า”
พร้อมตรวจยึดของกลาง บัญชีธนาคารพร้อมใช้ 102 บัญชี, บัตรเดบิต 70 ใบ, ซิมโทรศัพท์พร้อมใช้ประมาณ 1,000 ซิม, โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง (พบข้อมูลสำคัญจำนวนมาก), คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 1 เครื่อง และรถยนต์โตโยต้า ยาริส 1 คัน (ใช้รับส่งธุระจัดหาคนเปิดบัญชี)
สืบเนื่องจาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐบาล ระดมพลแก้ปัญหาทำสงครามกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทุกมิติ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ/ผอ.ศปอส.ตร. สั่งการให้ นักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมของศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT ตรวจสอบข้อมูลพบว่า การหลอกลวงรูปแบบ “ฟิวแฟนสแกมเมอร์ “สร้างความเสียหายเป็นอันดับ 1
พล.ต.ต.ธีรเดช รองหัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล ศปอส.ตร. แกะรอยสืบสวนจากผู้เสียหายรายหนึ่ง ที่ถูกหลอกลวงและได้แจ้งความไว้ที่ สน.พระโขนง โดยการปลอมโปรไฟล์แล้วสนทนา “ฟิวแฟน” ให้เหยื่อหลงรัก ก่อนจะชักชวนให้ลงทุนเปิดร้านค้าติ๊กต็อกของสิงคโปร์ และหลอกให้เหยื่อทำภารกิจโดยการให้กดออร์เดอร์ จากนั้นทำอุบายว่าให้ออกเงินไปก่อน หลังทำภารกิจครั้งแรกสำเร็จ ก็ได้รับเงินเพื่อให้ตายใจ จากนั้นต้องเพิ่มยอดเงินมากขึ้น กระทั่งไม่สามารถถอนเงินออกได้ โดยอ้างว่าเป็นเพราะเหยื่อกดออร์เดอร์ล่าช้าต้องเพิ่มเงินจึงจะถอนเงินในระบบได้
จากการแกะรอยเส้นทางการเงิน พบว่าเงินที่แก๊งสแกมเมอร์เมื่อหลอกลวงได้แล้ว จะแปลงเงินออกเป็นเหรียญดิจิทัล ผ่านช่องทางแอปพลิเคชัน บ. ชื่อดังในเมืองไทย กระทั่ง พ.ต.ท.บดินทร เพ็ญสูตร สว.(สอบสวน) สน.พระโขนง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT สืบสวนพบ นางสาวโจว หรือ บอสโจว สาวหล่อหัวหน้าแก๊งสแกมเมอร์นี้ ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศไทย เปิดเซฟเฮาส์อยู่กับ น.ส.อลิษา หรือ เล็ก ครูสาวชาวไทย ที่เพิ่งลาออกจากการเป็นครูได้ไม่นาน โดยใช้เซฟเฮาส์นี้ ให้หัวหน้าสแกมเมอร์โยกเงินออกแปลงเป็นบิตคอยน์
ต่อมาคณะพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ออกหมายจับบอสทั้งสอง กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT นำหมายค้นของศาลเข้าตรวจค้นเซฟเฮาส์ลับ และจับกุมตัว นางสาวโจว บอสทอม พร้อม น.ส.อลิษา แฟนสาว จากนั้นได้ขยายผลพบว่าภายในเซฟลับนี้ ยังมีผู้ร่วมขบวนการอีก และติดตามไปจับกุม นายสุกฤษฏิ์ และนางสาวอาทิตยา กำลังรับ นายสุเชษฐ์ ขณะเปิดบัญชีไปสแกนหน้าที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ม.รามคำแหง 2 จึงจับกุมได้ทั้ง 3 ราย จากการตรวจสอบบัญชีทั้งหมด พบความเชื่อมโยงในระบบการรับแจ้งความออนไลน์ (Case ID) รวมทั้งสิ้น 132 เคส มูลค่าความเสียหายกว่า 91,192,017 บาท
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า “จากการขยายผล เรามีพยานหลักฐานยืนยันว่า บอสโจว สาวหล่อหัวหน้าแก๊ง และแฟนสาว เป็นระดับหัวหน้าสั่งการในประเทศไทย อ้างว่ามีบอสใหญ่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน คอยจัดหาคนมาเปิดบัญชีธนาคารและวอลเล็ตเงินสกุลดิจิทัล เพื่อใช้รับโอนเงินจากการหลอกลวงของแก๊งสแกมเมอร์ฟิวแฟน และจะคอยแปลงเงินที่ได้จากการหลอกลวงจากเงินบาทแปลงเป็นเงินสกุลดิจิทัล แม้ว่าทั้งสองยังคงให้การไม่เต็มที่ แต่เรามีพยานหลักฐานมัดแน่นและของกลางที่เราตรวจพบในบ้านแห่งนี้ ถูกนำไปใช้หลอกลวงพัวพันกับระบบฐานข้อมูลรับแจ้งรวมทั้งสิ้น 132 Case ID มูลค่าความเสียหายกว่า 91,192,017 บาท.
