เมื่อเวลา 10.34 น. วันที่ 23 ก.พ. นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน เดินทางถึงวัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เข้ากราบพระธรรมวัชรจริยาจารย์ เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และจะพบปะกับผู้นำท้องถิ่น และผู้นำเครือข่ายชาวไทยพุทธ เพื่อหารือถึงการพัฒนาในพื้นที่ โดยมี พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต.และผู้เกี่ยวข้องร่วมประชุมด้วย

โดยนายทักษิณ กล่าวว่า ตนลงพื้นที่ครั้งนี้ ในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งให้ความสำคัญกับสันติภาพในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงตั้งใจมาดูสถานการณ์ในปัจจุบัน และอยากมาดูมารับฟังด้วยตัวเองว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร รวมถึงมาสานงานที่ทำไว้เมื่อครั้งเป็นนายกฯ เพราะการแก้ไขปัญหาใช้เวลานานมากยังไม่ยุติเสียที มันก็ควรจะยุติได้ในสมัยที่รัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งเป็นรัฐบาลเพื่อไทยและลูกสาวตนเป็นนายกรัฐมนตรี

นายทักษิณ กล่าวต่อว่า อยากเห็นการทำงานร่วมกัน เพราะเชื่อว่าเราอยากเห็นการแก้ปัญหาร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาของประชาชนที่อยู่ในพื้นนี้ เมื่อก่อนนี้ตอนสมัยตนเป็นนายกฯ เราน้อมนำแนวทางพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 เข้าใจ เข้าถึงและพัฒนา ซึ่งตนคิดว่ายังเป็นหลักการที่สำคัญ ทั้งนี้ เข้าถึง คือ เข้าถึงจิตใจว่าพวกเขาคิดอย่างไร เมื่อเข้าถึงแล้วเพื่อให้เขาพูดความจริงก่อนเมื่อเขาพูดความจริงแล้ว เราก็ต้องเข้าใจเป้าหมายร่วมกัน ร่วมกันพัฒนาในสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เคยตรัสไว้ในการที่จะแก้ปัญหาภาคใต้ 

“ณ จุดวันนี้ ผมเข้าใจว่ายังเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งและเป็นสิ่งที่ถูกต้อง เลยอยากมาฝากกับน้องๆ ว่าเราลองหยุดหายใจสักระยะ เรามัวอยู่กับเหตุการณ์ที่เคยมีมา 20 ปีแล้วให้กลับมาดูว่าเราจะเข้าถึงหรือแค่ไหนและเข้าใจมาคิดร่วมกันว่าจะทำให้พี่น้องจังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่อย่างสันติสุข นั่นคือหลักการที่ผมมาที่นี่” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าทุกคนมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหา ปัญหามีทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้เห็นต่างและฝ่ายข้าราชการ ดีที่สุดคือการพูดคุย ซึ่งตนได้เริ่มต้นการพูดคุยด้วยการที่ตนไปที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในสมัยอดีตนายกรัฐมนตรี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้พบกับผู้ที่เห็นต่างทั้งหลายที่อยู่ในมาเลเซีย ได้มีการพูดคุยกัน พวกเขาบอกอยากกลับบ้าน แล้วเมื่อไหร่จะได้กลับ แสดงเห็นว่าทุกฝ่ายพร้อมจะหันหน้าเข้ามาพูดคุยกัน เริ่มต้นชีวิตใหม่

“หลายคนในวันนั้นที่ได้ส่งตัวแทนมาคุยกับผมที่ต่างประเทศ ก็ได้มาคุยกัน คิดว่าวันนี้แนวทางในการพูดคุย ยังเป็นแนวทางที่ถูกต้องอยู่ เราต้องพูดคุยในระดับท้องถิ่นระดับชาวบ้าน จนถึงระดับข้าราชการที่ต้องพูดคุยกัน นักการเมืองท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นที่มีความใกล้ชิดกับกลุ่มเห็นต่าง นี่คือสิ่งที่ผมว่าเป็นแนวทางที่อยากเห็น” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ  กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาความล้มเหลวของการบริหารก็คือเศรษฐกิจที่แย่ เมื่อเศรษฐกิจที่แย่ สิ่งที่ตามมาคือยาเสพติด ยาเสพติดเป็นสิ่งที่น่ารังเกียจ ทั้งชาวพุทธและมุสลิมก็อยากจะขอให้เริ่มยาเสพติดเป็นวาระสำคัญที่เราจะต้องจัดการเพราะในเมื่อคนใช้ยาเสพติดมากก็ไม่มีความย้ำคิดย้ำทำ ก็อยากฝากให้ทุกท่านแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดด้วย.