เมื่อวันที่ 24 ก.พ. เบสท์ วงศ์ไพโรจน์กุล รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมรายวันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Airbnb กำลังสร้างปัญหาด้านความปลอดภัยและกระทบต่อทรัพยากรส่วนกลางของผู้อยู่อาศัยในหลายพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต และเชียงใหม่ ซึ่งปัญหาดังกล่าวยังคงเกิดขึ้นแม้จะมีกฎหมายหลายฉบับที่ควบคุมเรื่องนี้
โดยเห็นว่าการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมผ่าน Airbnb ส่งผลให้ทุนต่างชาติสามารถซื้อคอนโดมิเนียมและดำเนินธุรกิจเช่าโดยใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจท้องถิ่นและความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยอย่างมาก “เราพบว่ามีการใช้ทรัพยากรส่วนกลางของคอนโดมิเนียมมากเกินไป ทำให้ลูกบ้านต้องรับภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน การบังคับใช้กฎหมายยังไม่เข้มงวด ทำให้ปัญหายังคงลุกลาม” เบสท์กล่าว
แม้ว่าการปล่อยเช่าระยะสั้นจะขัดต่อกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.โรงแรม (พ.ศ. 2547) ที่กำหนดให้ต้องมีใบอนุญาต และ พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร (พ.ศ. 2522) ที่จำกัดการใช้คอนโดมิเนียมเพื่อการปล่อยเช่ารายวัน แต่ปัจจุบันยังคงมีผู้ฝ่าฝืนจำนวนมาก เนื่องจากการบังคับใช้กฎหมายไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ นอกจากนี้ พ.ร.บ.คนเข้าเมือง (พ.ศ. 2522) กำหนดให้เจ้าของที่พักต้องแจ้งข้อมูลผู้เข้าพักชาวต่างชาติภายใน 24 ชั่วโมง และ พ.ร.บ.ภาษีโรงเรือนและที่ดิน (พ.ศ. 2475) กำหนดให้เจ้าของที่พักต้องเสียภาษี แต่ในทางปฏิบัติกลับพบว่ามีเจ้าของคอนโดมิเนียมหลายรายเลี่ยงภาษี
เบสท์ วงศ์ไพโรจน์กุล เรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรีที่มีหน้าที่กำกับหน่วยงานต่างๆ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดำเนินมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้ โดยเสนอแนวทางดังต่อไปนี้
1. เพิ่มมาตรการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมาย โดยออกมาตรการที่ชัดเจนและเร่งรัดการตรวจสอบเพื่อปราบปรามการปล่อยเช่าโดยผิดกฎหมาย
2. สร้างระบบแจ้งเบาะแสที่มีประสิทธิภาพโดยให้ประชาชนสามารถแจ้งปัญหาการปล่อยเช่าแบบผิดกฎหมายผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น
3. เพิ่มบทลงโทษและค่าปรับสำหรับเจ้าของที่พักที่ฝ่าฝืน รวมถึงการดำเนินคดีทางกฎหมายที่รวดเร็วและเข้มงวดขึ้น
4. บังคับใช้ภาษีอย่างเคร่งครัด ด้วยการตรวจสอบและจัดเก็บภาษีจากเจ้าของที่ปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับธุรกิจโรงแรมที่ปฏิบัติตามกฎหมาย
5. จำกัดสิทธิของต่างชาติในการครอบครองคอนโดมิเนียมเพื่อการปล่อยเช่า โดยเฉพาะการทบทวนกฎหมายเกี่ยวกับการถือครองกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมของชาวต่างชาติ เพื่อป้องกันการผูกขาดทางธุรกิจ
“เราต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง มิฉะนั้น ปัญหานี้จะลุกลามและส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในเมืองใหญ่ รวมถึงทำให้เศรษฐกิจไทยเสียเปรียบต่อกลุ่มทุนต่างชาติ” เบสท์กล่าว
รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทยยังย้ำด้วยว่า ปัญหาการปล่อยเช่าคอนโดมิเนียมรายวันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ไม่เพียงแต่กระทบต่อความปลอดภัยและความสงบสุขของผู้อยู่อาศัย แต่ยังส่งผลเสียต่อภาคเศรษฐกิจโดยรวม รัฐบาลจึงจำเป็นต้องมีมาตรการที่เด็ดขาดเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยไม่เอื้อประโยชน์ให้กลุ่มใดเป็นพิเศษ และไม่ให้เกิดผลประโยชน์ทับซ้อนของผู้บังคับใช้กฎหมายและผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์
