สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แถลงนโยบายประจำปีต่อที่ประชุมร่วมวาระพิเศษของสภาคองเกรส เมื่อวันอังคาร โดยใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมงกับอีก 40 นาที ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ และทำลายสถิติของประธานาธิบดีบิล คลินตัน เมื่อปี 2536 ซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมง
ขณะเดียวกัน การแถลงสุนทรพจน์ครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ซึ่งทรัมป์กลับมารับตำแหน่งเป็นสมัยที่สอง เมื่อวันที่ 20 ม.ค. ที่ผ่านมา ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า ทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้ “เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น” และยืนยันว่า “อเมริกากลับมาแล้ว”
เกี่ยวกับนโยบายภายในประเทศ ทรัมป์เน้นไปที่ “การสร้างความสมดุล” ให้กับการบริหารจัดการงบประมาณ โดยยกย่องการดำเนินงานของสำนักงานประสิทธิภาพรัฐบาล (ดอจ) ที่มีนายอีลอน มัสก์ เป็นหัวเรือใหญ่ การควบคุมพรมแดนจากผู้อพยพผิดกฎหมายและขบวนการค้ายาเสพติดข้ามชาติ และ “การแก้ไขปัญหาสังคม” ที่ทรัมป์กล่าวถึงความพยายามของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ในการยุติ “การแบ่งแยกระหว่างเพศชายกับหญิง” สื่อถึงแนวคิดความหลากหลายทางเพศ
ในประเด็นเศรษฐกิจ ทรัมป์ยืนยันว่า การใช้กำแพงภาษีกับนานาประเทศตอนนี้ “เพื่อปกป้องตำแหน่งงานของสหรัฐ” และ “รักษาจิตวิญญาณของอเมริกา” เศรษฐกิจของประเทศ “อาจถูกรบกวนบ้าง” แต่ผู้นำสหรัฐยืนยันว่า “จะไม่มาก” และกล่าวถึงหลายประเทศ “เป็นทั้งพันธมิตรและศัตรู” จากการใช้นโยบายการค้าที่ไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐ พร้อมทั้งยืนยันว่า มาตรการภาษีตอบโต้จะมีผลในวันที่ 2 เม.ย. นี้
เกี่ยวกับเรื่องยูเครน ทรัมป์กล่าวว่า เพิ่งได้รับจดหมายจากประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ว่าต้องการกลับมาเจรจา และยืนยันพร้อมลงนามในข้อตกลงกับสหรัฐ ที่จะเป็นการ “แบ่งปันผลประโยชน์” จากแร่ธาตุหายาก
อย่างไรก็ตาม การแถลงต่อสภาคองเกรสของทรัมป์ในครั้งนี้ ถูกขัดจังหวะเล็กน้อย จากการประท้วงของนายอัล กรีน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 9 รัฐเทกซัส ซึ่งตะโกนใส่ผู้นำสหรัฐ ถึงขั้นที่นายไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎร สั่งให้ตำรวจสภาเชิญตัวกรีนออกจากห้องประชุม.
เครดิตภาพ : AFP
