เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 10 มี.ค. ที่ศาลาจีรวัสส์ รัชนิบูล วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการจัดเตรียมสถานที่ จัดตกแต่งดอกไม้ เพื่อเตรียมงานพิธีรดน้ำศพ ในเวลา 16.00 น. ของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ ผกก.โจ้ อุทธนผล นอกจากนี้ ยังมีพวงหรีดจากบุคคลใกล้ชิด นายชาดา และ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นักเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 57 รวมถึง นายกรรชัย กำเนิดพลอย ทยอยมาติดที่ด้านหน้าศาลา

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่มีการจัดตกแต่งศาลานั้น ญาติได้นำเครื่องแบบตำรวจของ ผกก.โจ้ มาวางไว้ในงาน โดยมีเพื่อนตำรวจรุ่น 57 จัดเครื่องแบบให้เรียบร้อย ต่อมาเวลา 15.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รถตู้บรรจุร่างของ ผกก.โจ้ เดินทางมาถึง ศาลาจีรวัสส์ รัชนิบูล พร้อมกับญาติ ก่อนเคลื่อนร่างเข้าภายในศาลา บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า

โดยทางญาติขอความร่วมมือสื่อมวลชน ให้สังเกตการณ์และบันทึกภาพอยู่ภายนอกเท่านั้น ส่วนแม่และแฟนสาวของ ผกก.โจ้ กำลังเดินทางตามมาที่วัดหลังจากรอพูดคุยกับแพทย์ที่ผ่าชันสูตรพลิกศพรอบที่สองต่อไป

ขณะที่ นายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความ ผู้กำกับโจ้ เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลชันสูตรเบื้องต้นยังไม่ออกและยังไม่สามารถตอบได้ เพราะทางสถาบันฯ ยังต้องส่งเลือดและชิ้นเนื้อไปตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน และจะทำรายงานแจ้งไปยังพนักงานสอบสวนเจ้าของสำนวนที่ สน.ประชาชื่น ซึ่งยังอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล

ส่วนจะมีความคล้ายคลึงกับผลชันสูตรจากที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม จ.ปทุมธานี หรือไม่นั้น นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ต้องทำรายงานและจะส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับพนักงานสอบสวนก่อน ยังพูดอะไรไม่ได้ โดยวันนี้ทางครอบครัวมาฟังข้อมูลเพิ่มเติม และแพทย์ก็ได้อธิบายว่าจะมีการตรวจอย่างไร รวมถึงก่อนหน้านี้มีการตรวจอย่างไรมาแล้วบ้าง ซึ่งทางแพทย์ก็จะดูรายละเอียดหลังจากนี้ให้ต่อ เบื้องต้นครอบครัวก็ไม่ได้เน้นย้ำอะไร คาดว่าจะต้องใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ถึงจะทราบผล

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะส่งร่างไปชันสูตรที่ไหนอีกหรือไม่ นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า เบื้องต้นไม่แล้ว แต่ทางครอบครัวจะเก็บร่างของผู้กำกับโจ้เอาไว้ก่อน หากมีรายงานออกมาแล้วว่ามีอะไรบ่งชี้หรือน่าสงสัย ก็จะสอบถามอีกครั้ง ส่วนประเด็นที่ทางกรมราชทัณฑ์ออกเอกสารชี้แจงเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (9 มี.ค.) ทางครอบครัวและตัวเองเห็นแล้ว แต่ยังไม่ได้อ่านรายละเอียด

เมื่อถามว่า ผู้กำกับโจ้ ป่วยจิตเวชตามที่กรมราชทัณฑ์ออกเอกสารชี้แจงมาหรือไม่นั้น นายวีรศักดิ์ กล่าวว่า ญาติก็ยังเข้าไปเยี่ยมและพูดคุยกันตลอดด้วยดี โดยในช่วงวันเกิดเหตุมีเพียงแฟนสาวและเพื่อนที่เป็นตำรวจเข้าไปพูดคุยกับผู้กำกับโจ้เท่านั้น แต่ไม่ทราบรายละเอียดว่าไปคุยเรื่องอะไรกัน หรือมีเรื่องอะไรที่สะกิดใจผู้กำกับโจ้หรือไม่ เพราะตัวเองไม่ได้เข้าไปด้วย ส่วนตัวได้พูดคุยกับผู้กำกับโจ้ เพียงแค่เรื่องคดีที่จะเดินหน้าต่อ ซึ่งเจ้าตัวก็มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และยังพูดคุยกันเรื่องว่าจะให้อุทธรณ์ต่อ ส่วนเรื่องทรัพย์สิน ยืนยันว่าไม่มีการพูดคุยกัน จะเน้นเป็นเรื่องคดีทั้งหมด

เมื่อถามถึงเรื่องที่ผู้กำกับโจ้ มีพฤติกรรมเอากล้องของทางเรือนจำไปใช้ถ่ายภาพโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเรื่องที่ผู้กำกับโจ้ไม่ประสงค์จะให้ดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียน จึงขอยุติเรื่อง พร้อมลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งไม่ได้เกิดจากการบังคับ ทางทนายหรือครอบครัวทราบหรือไม่นั้น นายวีรศักดิ์ ตอบว่า “เรื่องนี้ก็ต้องถามทางญาติ พร้อมยืนยันว่าผู้กำกับโจ้ถูกย้ายไปขังเดี่ยวจริง แต่เรื่องอะไรก็ไม่แน่ใจ”

ส่วนประเด็นที่ผู้คุมคู่กรณีถูกย้ายออกมาจากแดนแล้ว นายวีรศักดิ์ ระบุว่า ไม่สามารถให้ความเห็นอะไรได้มาก เพราะคิดว่าทางเรือนจำเขาก็คงทำตามกระบวนการให้ดีที่สุด