เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาชน ยังดื้อดึงไม่นำชื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า อยากขอร้องฝ่ายค้าน ให้กระบวนการตรวจสอบเดินหน้าได้ควรจะปรับแก้ สมัยตนทำงานกับพรรคก้าวไกล นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในสมัยนั้น ให้แก้ให้ปรับ เราก็ปรับ ถ้าหากว่าพรรคประชาชนไม่แก้ คนก็เริ่มสงสัยอีกแบบ
นายสุทิน กล่าวว่า ตนก็สงสัยว่ามีข้อมูลเฉพาะนายทักษิณ อย่างเดียวหรือไม่ ข้อมูลอย่างอื่นไม่มี ถ้าไม่มีนายทักษิณ ก็จะอภิปรายไม่ได้ อย่างนี้ก็มองได้แล้ว ทุกคนจะมองว่าพรรคประชาชนหาเรื่องล่มสภา ทำให้วาระไม่ถูกบรรจุและโยนความผิดให้ที่ประธานสภา เพื่อให้ความเข้าใจอันดี พรรคประชาชนต้องแก้ ไม่เสียหายอะไร เรายอมแก้ให้กับข้อบังคับ ยอมถอยกับประธานสภา ไม่เสียหาย และเราจะได้อภิปรายไปตามหน้าที่ การจะพูด ก็จะเป็นโอกาสที่ดีของพรรคประชาชน ถ้าไม่ได้พูดก็จะไม่มีโอกาส
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมีความกังวลว่าถ้าไม่ใส่ชื่อ องครักษ์จะเริ่มทำงานจนอภิปรายไม่ได้ นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องแบบนี้เป็นธรรมชาติในสภาที่ทำกัน การอ้างถึงบุคคลภายนอก ถ้ามีพองามเป็นสีสันก็เดินต่อไปได้
“ไม่อยากจะแนะนำในฐานะที่เคยอภิปรายมาเยอะ การจะพูดถึงคนภายนอก ไม่ต้องเอ่ยชื่อเขาก็รู้หมด ใช้เทคนิคการอภิปราย อย่าหาว่าแนะนำทำได้ ถ้าเราไปปิดขังตัวเอง ปิดโอกาสตัวเอง ก็จะเสียโอกาส ผมอภิปรายไม่สนใจเลยว่าต้องเป็นชื่อ พูดอะไรคนก็รู้หมดว่าหมายถึงใคร ถ้าไม่แก้จะถูกมองว่าไม่พร้อม เลยเอาเรื่องนายทักษิณ มาอ้าง มีข้อมูลนายทักษิณอย่างเดียวเท่านั้น ฝากด้วยความรักกัน” นายสุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายค้านยืนยันจะไม่เปลี่ยนชื่อ เหมือนเป็นการใช้กระแสสังคมกดดันหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ตนไม่ได้มอง ถ้าหากใช้กระแสสังคมบีบ ต้องชอบด้วยเหตุผล เพราะมีข้อบังคับที่ชัดเจน อีกทั้งมีธรรมเนียมปฏิบัติ วันนี้ก็ไม่ได้รู้สึกถูกบีบอะไร ไม่คิดว่ากระแสจะตีกลับ ที่ไม่แก้เพราะไม่มีข้อมูล ยังไม่พร้อม และอยากจะลงอภิปรายโดยใช้วิธีนี้หรือเปล่า เป็นผลเสียมากกว่า.