เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ไข้หวัดนก ซึ่งขณะนี้พบในหลายประเทศ ว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นแนวโน้มการระบาดใหญ่ในประเทศไทย ในส่วนของวัคซีนไข้หวัดนก สถาบันวัคซีนฯ มีการให้ทุนสนับสนุนการวิจัยพัฒนาวัคซีนไข้หวัดนก H5N1 ชนิด mRNA ให้กับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งผลการทดสอบในหนู ให้ผลค่อนข้างดี กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี ขณะนี้อยู่ระหว่างการทดสอบในสัตว์ทดลองขนาดใหญ่ขึ้น คือ ตัวเฟอเรท โดยเป็นสัตว์ที่จำเพาะต่อเชื้อไข้หวัดใหญ่ โดยจะเป็นการทดลองแบบชาเลนจ์เทสต์ ด้วยการฉีดวัคซีนแล้วให้สัตว์สัมผัสกับเชื้อ เพื่อดูว่าสัตว์จะป่วยหรือไม่ป่วย

“ไข้หวัดนก H5N1 อัตราการเสียชีวิตสูง จึงต้องมีการเตรียมความพร้อมในการรับมือ ซึ่งหากไข้หวัดนกระบาดใหญ่ จะเหนื่อยกว่าตอนโควิด-19 ระบาดมาก แม้ว่าเชื้อที่คนติดแล้วเจ็บป่วยรุนแรงมักจะไม่ระบาดใหญ่ แต่ก็จะมีโอกาสเกิดขึ้น เพราะเชื้อไข้หวัดใหญ่กลายพันธุ์ได้ง่าย ถ้ากลายพันธุ์ไปในทางที่รุนแรงน้อยลง เช่น จากอัตราเสียชีวิต 40 เปอร์เซ็นต์ แล้วเหลือ 4 เปอร์เซ็นต์ น้อยลง 10 เท่า ก็ยังเป็นอัตราที่น่ากลัวแล้ว เพราะโควิด-19 อยู่ที่ 2-4 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้ยังไม่มีสัญญาณ ก็ต้องเฝ้าระวัง”นพ.นคร กล่าว 

นพ.นคร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สถาบันวัคซีนฯ กำลังร่วมมือกับองค์การเภสัชกรรม (GPO) ในการหาวิธีผลิตวัคซีนไข้หวัดใหญ่ด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ต้องพึ่งพาไข่ไก่ เพราะหากเกิดการระบาดของไข้หวัดนก ก็จะไม่มีไข่ไก่มาผลิตวัคซีน โดยวิธีการที่ใช้คือ การใช้เซลล์เพาะเลี้ยงชนิดเชื้อตาย หรือใช้แพลตฟอร์ม mRNA ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งตนเชื่อว่าจะดำเนินการได้ทันต่อการระบาดหากเกิดขึ้นจริง ภายใต้การใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน.