เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 21 มี.ค. 68 ที่ สน.บางมด นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พร้อมด้วย นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคม ในฐานะโฆษกกระทรวงคมนาคม เดินทางนำเอกสารหลักฐานเข้าพบ พ.ต.อ.สนชัย พูลผล ผกก.สน.บางมด และ พ.ต.ท.รังสิมันตุ์ ตีสถิตย์ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.บางมด เพื่อแจ้งความดำเนินคดีเอาผิดกับบริษัทผู้รับเหมาก่อสร้าง กรณีเหตุคานสะพานโครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ถล่มส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 มี.ค. เวลา 01.00 น.

นายกฤชนนท์ กล่าวว่า วันนี้ทาง กทพ.มาร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และอาญา กับผู้ที่กระทำให้เกิดเหตุดังกล่าว สำหรับอัตราโทษสูงสุดในการกระทำประมาททำให้มีผู้เสียชีวิต จำคุก 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ส่วนประมาททำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส สูงสุดจำคุก 3 ปี ปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากมาแจ้งความกับทางตำรวจแล้ว มีการประสานกับทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ด้วย เพื่อช่วยตรวจสอบดำเนินคดี นอกจากนี้จะดำเนินคดีทางแพ่ง เพื่อเอาผิดผู้ที่ทำให้เกิดความเสียหายกับการทางพิเศษ ซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบมูลค่าความเสียหายและหาตัวผู้ที่กระทำผิดดังกล่าว

นายกฤชนนท์ กล่าวอีกว่า ทางกระทรวงคมนาคมและการทางพิเศษยืนยันจะดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญาเด็ดขาด ส่วนการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงจะรู้ผลภายในกรอบระยะเวลาอีก 20 วัน เมื่อทราบตัวผู้กระทำความผิดจะดำเนินคดีขั้นสูงสุด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเก็บข้อมูล รวบรวมพยานหลักฐานสืบสวนทั้งส่วนของผู้รับเหมาก่อสร้างและผู้ควบคุมงาน นอกจากนี้ทางคมนาคม ได้ตั้งคณะกรรมการไว้อีก 1 ชุด ที่ผ่านทำงานเป็น “ดับเบิ้ลเซฟตี้” หลังจากนี้จะทำแบบ “ทริปเปิ้ลเซฟตี้” ตั้งเป็นเซฟตี้ ออดิต (Safty Audit) เพื่อไว้ตรวจสอบโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ ทั้งในกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ เพื่อเข้าไปทุกโครงการว่าเป็นไปตามหลักวิศวกรรมสถาน หรือไม่ โดยคณะกรรมการชุดนี้มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย และทางสภาวิศวกร ให้ส่งเจ้าหน้าที่มาร่วมกับคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดแก่ผู้เดินทางสัญจรไปมาและสร้างความมั่นใจให้ประชาชน

นายกฤชนนท์ กล่าวอีกว่า อยู่ระหว่างรอผลการตรวจวัสดุและอุปกรณ์ จากห้องแล็บเพื่อให้ได้ผลที่ชัดเจนรวมถึงขั้นตอนการทำงาน ว่าเกิดความผิดพลาดส่วนใดหรือไม่ ส่วนการแจ้งความวันนี้เป็นการมาให้ปากคำ ก่อนจะมีการตรวจสอบทั้งบุคคลและนิติบุคคล เพื่อดำเนินคดี

ส่วนกรณีมีการประสานกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ มาช่วยทำคดีนั้น นานกฤชนนท์ กล่าวว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 17 มี.ค. มีการพูดคุยกันในที่ประชุมกระทรวงคมนาคม ว่าต้องประสานดีเอสไอมาตรวจสอบขั้นตอนการทำงานว่าบกพร่องส่วนไหนบ้าง ซึ่งแยกคนละส่วนกับคณะกรรมการที่ตรวจสอบเฉพาะเรื่องสาเหตุและอุบัติเหตุ ส่วนดีเอสไอจะมาดูเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง เพื่อตรวจสอบทุกแง่มุมให้ประชาชนมั่นใจได้ว่ากระบวนการของโครงการต่างๆ ใน กทม. และในประเทศไทยช่วงเริ่มต้นไปจนถึงการตรวจสอบต่างๆ โปร่งใสและเป็นธรรม

ส่วนกรณีความเสียหายสูงกว่า 300 ล้านบาทหรือไม่ หากจะให้ดีเอสไอเข้ามาทำคดีนั้น นายกฤชนนท์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบประเมินมูลค่า ภายใน 20 วัน

ด้านนายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวมีการประมูลเป็นจำนวน 7 พันล้านบาท ซึ่งการมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษวันนี้ ซึ่งมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบไว้แล้ว หากทราบผลก็จะมีการส่งข้อมูลเข้าให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อแสดงความโปร่งใส และเชิญทางดีเอสไอ มาแล้วให้ข้อมูลทั้งหมด ว่ามีส่วนใดผิดกฎหมายหรือไม่ โดยส่วนของคดีต้องให้ทางตำรวจ ส่วนกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้ทางดีเอสไอตรวจสอบ ขณะที่เมื่อวานนี้ได้มีการเปิดด่านให้ประชาชนเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ 1 วัน ยอมเสียเวลา 1 วัน เพื่อให้คณะกรรมการไปเก็บหลักฐานมาสืบสวนสอบสวน หากได้ผลประการใดก็จะส่งให้ทางตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เป็นวันหยุดยาว ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุไว้ว่า ทุกปีในช่วงวันหยุดยาวจะมีคำสั่งให้หยุดการก่อสร้างเพื่อความปลอดภัยของประชาชน

ขณะที่เมื่อวันที่ 19 มี.ค.ที่ผ่านมา นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และคณะผู้บริหาร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บที่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลบางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และโรงพยาบาลบางปะกอก 1 โดยนายสุรเชษฐ์ ได้พูดคุยให้กำลังใจแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมมอบกระเช้าและเงินช่วยเหลือในเบื้องต้นเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ยืนยันว่าจะดูแลค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่จนกว่าจะหายเป็นปกติ พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า “ผมรู้สึกสะเทือนใจและขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสียเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทราบว่าผู้ได้รับบาดเจ็บท่านหนึ่งเป็นผู้ที่เคยทำงานร่วมกันในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ผมเคยเป็นผู้ดูแลสมัยทำงานที่ รฟม. และตัวเขาก็ชื่นชมการทำงานของผม มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก”