เมื่อวันที่ 25 มี.ค.นายนอบ อายุ 50 ปี และนางสำรวน อายุ 52 ปี สองสามีภรรยา ต.แสลงโทน อ.ประโคนชัย เดินทางไปที่ สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังถูกหลอกโอนเงินไปจำนวน 120,000 บาท ทั้งสองถึงกับร่ำไห้หลังจากเจ้าหน้าที่แจ้งว่าไม่มั่นใจว่าจะได้เงินคืนหรือไม่ เพราะเวลาผ่านไปข้ามวัน
นางสำรวน เล่าว่า เมื่อวานนี้(24มี.ค.)ได้มีโทรศัพท์เข้ามาหาแนะนำตัวเป็นเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค บอกว่าจะมีการเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งตรงกับสามีที่ขอขยายเขตเอาไว้แล้วก่อนหน้านี้ ตนจึงคุยด้วยทางปลายสายบอกว่าจะต้องจ่ายค่ามัดจำเป็นเงิน 5,000 บาท ตนบอกว่าจะขอไปจ่ายที่การไฟฟ้าเพราะต้องกรอกเอกสาร ปลายสายอ้างว่าไม่ต้องเพราะสามารถดำเนินการทางโทรศัพท์ได้
เมื่อถึงเวลาที่จะต้องจ่ายมัดจำชายที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าให้ตนไปที่ตู้ATM ตนก็ไปที่ธนาคาร ทางปลายสายบอกให้ตนกดตัวไหนตนก็กด จำได้ว่าให้กดเลข 3 แล้วตามด้วยเลข 0 อีก 4 ตัวตนก็ทำตาม ทำทั้งหมด 4 ครั้งหลังจากนั้นธนาคารไม่ให้ทำต่อ ตนก็กลับบ้าน พอมาถึงบ้านเอะใจว่าตอนกดที่ตู้ ATM คือกดอะไร จึงขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปที่ธนาคารเดิม เอาสมุดบัญชีไปปรับดูพบว่าเงินหายไป 120,000 บาท ตกใจมากโทรศัพท์ไปหาสามีที่ทำงานอยู่จังหวัดชลบุรี สามีรีบกลับมาที่บ้านในคืนเดียวกัน เมื่อมาคุยกันกับสามีจึงรู้ว่าโดนหลอกจึงเข้าไปแจ้งความดังกล่าว
นางสำรวน เล่าทั้งน้ำตาว่า เงินในบัญชีของตนมี 295,200 บาท เป็นเงินที่ไปจำนำยุ้งฉางกับธนาคาร เอาไว้แต่ข้าวยังอยู่เมื่อถึงเวลาขายข้าวในยุ้งจะต้องคืนเงินจำนวนนี้ให้กับธนาคาร ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะเอาเงินที่ไหนคืนให้ โชคดีที่บัญชีของตนโอนได้วันละไม่เกิน 120,000 บาท ถ้ามีการขยายวงเงินเอาไว้คงเกลี้ยงบัญชีอย่างแน่นอน จึงอยากจะฝากถึงคนร้ายว่าไม่อยากจะทำแบบนี้กับใครอีกเพราะชาวนาลำบากมากพอแล้ว
ขณะที่นายนอบ สามี บอกว่าก่อนหน้านี้ตนได้ยื่นขอขยายเขตกับการไฟฟ้าไว้ เพราะตอนนี้ใช้หม้อมิเตอร์ไฟฟ้าแบบชั่วคราว ซึ่งค่าหน่วยแพงกว่าปกติมาก ที่ผ่านมาเคยบอกให้ภรรยาว่าใครโทรมาไม่ต้องสนใจ เพราะตนเป็นคนขอมิเตอร์จะต้องเป็นชื่อของตน แต่ครั้งนี้ไม่ทัน สิ่งหนึ่งที่อยากรู้เขารู้ได้อย่างไรว่าตนกำลังขยายเขตไฟฟ้า
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างการแจ้งความได้มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรเข้ามาอีก เพื่อให้ไปดำเนินการต่อเพราะรู้ว่าเงินในบัญชียังไม่หมด